คุมตัวสองผัวเมียเจ้าของโกดังพลุระเบิดส่ง สภ.มูโนะ แล้ว อ่วมโดน 4 ข้อหาหนัก

ความคืบหน้ากรณีนายสมปอง (สงวนนามสกุล) หรือ เสี่ยไหว และน.ส.ปิยะนุช (สงวนนามสกุล) หรือ เจ๊หลิน สองผัวเมียเจ้าของโกดังเก็บ 'พลุระเบิด' ที่บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้ติดต่อผ่านทนายความส่วนตัวขอเข้ามอบตัวผ่านทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ที่ด่านพรมแดนสะเดา และมีการรับมอบตัวกันเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (5 ส.ค.66) 

 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.40 น. หลังจากที่มีการบันทึกจับกุมและแจ้งข้อหาให้ทราบ โดยทั้่งสองผัวเมียถูกดำเนินคดีในข้อหา 'กระทำโดยประมาทและกระทำการนั้นเป็นให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และร่วมกันก่อสร้างดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต' 

 

โดยเจ้าหน้าที่ ตม.สงขลา ตำรวจสภ.สะเดา ชุดสืบสวน จ.นราธิวาส ชุดสืบสวน จ.สงขลา ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจสภ.มูโนะ ได้ควบคุมตัวนายสมปอง และน.ส.ปิยะนุช ออกจาก สภ.สะเดา เพื่อส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.มูโนะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะที่ทั้งสองผัวเมียถูกควบคุมตัวออกจาก สภ.สะเดา เจ้าหน้าที่ได้มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาและพากันขึ้นรถทันที และทั้งสองคนก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว โดยการส่งตัวไปที่ สภ.มูโนะ ใช้รถคุ้มกันราว 5 คันตลอดเส้นทาง 

 

 

 

อย่างไรก็ตามมีรายงานการสอบสวนระหว่างที่สองผัวเมียถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.สะเดา ถึงจุดเริ่มต้นของการขายพลุประทัดจนกิจการใหญ่โต โดย น.ส.ปิยะนุช เล่าว่า เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 57-58 เดิมตนเป็นเซลขายประทัดของบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และมาแต่งงานกับ นายสมปอง จึงย้ายมาอยู่ที่บ้านมูโนะ จากนั้นก็เริ่มลองสั่งพลุประทัดมาขาย เริ่มต้นจากตั้งโต๊ะขายเล็กๆหน้าร้าน และเมื่อกิจการเติบโตขึ้นเรื่อยๆจึงเริ่มสั่งของจากอีกหลายบริษัทจนถึงปัจจุบัน 

 

 

ทั้งนี้มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตม.ด้วยว่า หลังเกิดเหตุโกดังพลุระเบิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่สองผัวเมียเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย ก็ได้ย้อนกลับเข้ามาทางด่านประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม และกลับออกไปมาเลเซียอีกครั้งในวันที่ 31 กรกฎาคม ก่อนที่จะถูกออกหมายจับตามมา และเข้ามอบตัววันนี้ดังกล่าว