'วราวุธ' เดือด! ขู่ปิดฟื้นฟู ปมผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทิ้งคราบน้ำมันลงทะเล
"วราวุธ"เดือด! ปม ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเล ทิ้งคราบน้ำมันบริเวณอุทยานฯสิรินาถ ภูเก็ต ฮึ่ม ให้มีสำนึกรับผิดชอบ อย่าทุบหม้อข้าวตัวเอง ขู่ อย่าให้ถึงขั้นต้องปิดเพื่อฟื้นฟู
วันนี้ (6 ส.ค. 66) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายสรศักดิ์ รณนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช ถึงผลการปฎิบัติงาน การจัดเก็บคราบน้ำมัน บริเวณหน้าหาดในพื้นที่อุทยานฯ โดยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปีหาดท้ายเหมือง, เจ้าหน้าทหารเรือกองทัพเรือภาค 3, เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า, หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจิตอาสา
ร่วมกันจัดเก็บและทำความสะอาด คราบน้ำมันสีดำ บริเวณหน้าหาดดังกล่าว ซึ่งประกอบไปด้วย หาดไม้ขาว ระยะทางประมาณ 5.42 กม. หาดในยาง ระยะทางประมาณ 3.66 กม. หาดในทอนระยะทางประมาณ 1 กม. หาดลายัน ระยะทางประมาณ 1 กม. โดยได้ดำเนินการจัดเก็บ แต่วันที่ 4-5 ส.ค.ที่ผ่านมา และจะดำเนินการจนกว่าจะแล้วเสร็จ
นายวราวุธ กล่าวต่อ จากที่ได้รับรายงาน คราบน้ำมันสีดำ ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ ทั้งภูเก็ต และเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งแน่นอนว่าบางส่วนไม่ได้อยู่ในพื้นที่อุทยานฯ แต่ก็ถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศไทย
"ผมขอเตือนผู้ประกอบการทุกคนที่ทำกิจกรรม เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งบนบกและในทะเล ขอให้ประกอบการอย่างมีความรับผิดชอบกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล ที่มีความสวยงามอยู่อย่างจำกัด อย่าให้ถึงกับขั้นที่ว่า เราต้องมาปิดแหล่งท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟู เพราะความมักง่ายของผู้ประกอบการบางราย จนทำให้เกิดความเสียหายในระยะยาว อย่างที่เราเคยต้องทำมาแล้วในอ่าวมาหยา จ.กระบี่ ที่ต้องปิด 3-4 ปี ซึ่งก็ได้รับผลกระทบกันหมด นั่นก็มาจากความมักง่าย ของผู้ประกอบการบางคนที่ขาดจิตสำนึก" นายวราวุธ กล่าว และกล่าวต่อ
วันนี้การท่องเที่ยวไทยกำลังฟื้นตัวขึ้นมา นักท่องเที่ยวกำลังมาประเทศไทยกันอย่างมหาศาล ขอเตือนผู้ประกอบการการท่องเที่ยวทุกคน ทุกๆบริษัท ให้กำชับพนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้บังคับเรือ ให้ทำงานอย่างมีจิตสำนึกถึงความสวยงาม และความรับผิดชอบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เช่นนั้นเมื่อเกิดความเสียหาย ย่อมเกิดกับผู้ประกอบการเอง ที่วันนี้เหมือนกำลังทุบหม้อข้าวตัวเองอยู่ คุณมีเพชรเม็ดงามอยู่ในมือแทนที่จะช่วยกันรักษา กลับทิ้งคราบน้ำมันลงในอ่าว ลงในทะเล อย่างนี้ทำให้นักท่องเที่ยวไปแล้วมีคราบน้ำมันติดตัวมา ถามว่าเป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างไร
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกไม่พอใจมาก ขออย่าให้ได้เจอ ตนจะสั่งจับ สั่งแบนให้หมด เพราะผู้ประกอบการ ด้านการท่องเที่ยวอย่างนี้ ไม่ควรมีอยู่ในประเทศไทย จึงขอฝากทุกๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมเจ้าท่า กรมการท่องเที่ยว และทุกหน่วยงานที่อยู่นอกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้มงวดกับผู้ประกอบการเหล่านี้ ก่อนที่จะสายเกินไป
“เมื่อครั้งที่เราประสบวิกฤต โควิด-19 เป็นช่วงที่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยได้มีโอกาสพัก และฟื้นฟู แต่วันนี้กลับมีบางคนที่กำลังมักง่าย ทำให้สิ่งต่างๆที่เรารักษากันมาตลอด พังลงไปอีกครั้ง ดังนั้นขอเตือนด้วยความหวังดีและเป็นห่วงว่าอย่าให้เห็นสภาพแบบนี้เกิดขึ้นอีกเลย”
นายวราวุธ กล่าวต่อ ตนได้ให้กรมอุทยานฯ กับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งตรวจสอบดีเอ็นเอของน้ำมันก่อนว่ามาจากไหน จากเรือหรืออุตสาหกรรมอะไร เราจะต้องสืบหาต้นตอให้ได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่อยู่นอกพื้นที่เขตอุทยานฯ ต้องขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูคุณภาพผู้ประกอบการ การท่องเที่ยวเหล่านี้ เพราะทส. เรามีอำนาจปฎิบัติหน้าที่ตามกฏหมายจำกัดอยู่ในระดับหนึ่ง หากทส. มีอำนาจครอบคลุมในการปฎิบัติหน้าที่คงจับหมดแล้ว และไม่ให้ประกอบกิจการได้อีกสำหรับคนมักง่ายเช่นนี้