สืบนครบาล บุกจับ 'เอส คอลาย' บังคับลูกเลี้ยงดญ. 12 เสพยา-ข่มขืน
ตำรวจสืบนครบาล บุกจับ “เอส คอลาย” เดนนรก พาลูกเลี้ยงวัย 12 ปี หนีออกจากบ้าน บังคับเสพยา และข่มขืน ล้างสมองให้เกลียดแม่ ลาออกจากโรงเรียน ครอบครัวโพสต์ข้อความตามหาในโซเชียล เจ้าหน้าที่ไล่ล่า 48 ชม. ช่วยเด็กปลอดภัย ก่อนถูกพาหนีลงใต้
กรณีจับ “เอส คอลาย” บังคับลูกเลี้ยงเสพยา และ ข่มขืน ถูกเปิดเผยหลัง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปฏิบัติการที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ชุด PCT5, สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายวีรยุทธ หรือ “เอส คอลาย” อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี โดยจับกุมตัวได้ที่ ภายในซอยตลาดวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก นายวีรยุทธ หรือ “เอส คอลาย” ซึ่งเป็น “พ่อเลี้ยง” ของเด็กหญิงอายุ 12 ปี โดยเจ้าตัวมีพฤติกรรมติดยาเสพติดอย่างงอมแงม และยังมีความวิปริตจิตหมกมุ่นแต่ในเรื่องกามอารมณ์ เมื่อปี 2562 ภายหลังที่นายเอส ได้เริ่มเข้ามาคบกับ น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ซึ่งหญิงสาวรายนี้มี “ลูกติด” ชื่อ ด.ญ.ส้ม (นามสมมุติ) อายุเพียง 8 ปีในเวลานั้น ซึ่งแรกเริ่มก็ดูเป็นครอบครัวปกติทั่วไป แต่เมื่อเวลาผ่านไป ด.ญ.ส้ม ได้เติบโตขึ้นเข้าสู่ช่วงอายุ 11 ปี ได้มีผู้เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของครอบครัวนี้
โดยจะมักเห็นพฤติกรรมของนายเอสสนิทสนมกับ ด.ญ.ส้ม มากเกินกว่าพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยง มีการหยอกล้อในเชิงชู้สาวกับ ด.ญ.ส้ม อยู่เป็นประจำ กระทั่งในปี 2565 นายเอสได้พา ด.ญ.ส้ม ไปอยู่กินด้วยฉันสามีภรรยา โดยตลอดการพาไปอยู่กินด้วยจะใช้ความเป็นเด็กของ ด.ญ.ส้ม “ล้างสมอง” ให้เกลียดแม่ตัวเอง ให้ลาออกจากโรงเรียน และให้ตกเป็นทาสกามอารมณ์ของตน โดยไม่สนอนาคตของเด็กแต่อย่างใด กระทั่งในปัจจุบัน ด.ญ.ส้ม ไม่เรียนหนังสือ และออกเร่ร่อนไปกับนายเอส
ซึ่ง ด.ญ.ส้ม เข้าใจว่านี่คือรักแท้ จนปัจจุบันครอบครัวของ น.ส.เอ๋ และ ด.ญ.ส้ม เรียกได้ว่าตายทั้งเป็น โดยล่าสุดนายเอสได้พาตัว ด.ญ.ส้ม ออกไปจากบ้านอีกครั้ง และพาไปร่อนเร่ “บังคับเสพยาเสพติด และลงมือกระทำชำเรา” ด.ญ.ส้ม ซึ่ง น.ส.เอ๋ ผู้เป็นแม่ทราบเรื่องถึงกับใจสลาย พยายามติดต่อ ตามหา แต่นายเอสก็ยังนำโทรศัพท์มือถือของ ด.ญ.ส้ม ไปขาย เพื่อนำมาซื้อยาเสพติดเสพ น.ส.เอ๋ จึงโพสต์ข้อความประกาศตามหา ด.ญ.ส้ม จนกลายเป็นไวรัล ซึ่งประชาชนต่างช่วยกันแชร์ และติดตาม
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศอ.ปส.ตร.และ พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และชุดสืบนครบาล และสืบ 110 ติดตามไล่ล่าพ่อเลี้ยงรายนี้ทันที โดยทราบเบาะแสเพียงว่า นายเอสได้พา ด.ญ.ส้ม มาเสพยาภายในชุมชนแห่งหนึ่งย่านธนบุรี
จากการลงพื้นที่สืบสวนกว่า 2 วัน เจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสจากพลเมืองดีรายหนึ่งในตลาดวังหลัง ซึ่งเห็นคนร้ายเดินกับเด็กหญิงสาวโดยเด็กผู้หญิง “มีบาดแผลตามร่างกาย” ซึ่งทางชุดสืบสวน “มั่นใจ” คือคนร้าย ก่อนไล่ล่าติดตามไปอย่างระทึก กระทั่งไปจับกุมตัวได้ที่ ตลาดวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพฯ และสามารถช่วยเหลือ ด.ญ.ส้ม ได้ก่อนจะถูกคนร้ายพาหนีลงไปทางภาคใต้
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองลงมือกระทำชำเราลูกเลี้ยงวัย 12 ปี จริง และที่ทำไปเพราะความรัก ตอนแรกแค่แอบชอบ แต่พอพูดคุยแหย่กันไปมาก็เริ่มมีความรู้สึกรัก ตอนนี้ไม่ได้รักแม่ของเด็กแล้ว แต่มารักเด็กแทน โดยที่ผ่านมาตนเองเคยถูกจับกุมตั้งแต่วัยเด็ก โดยรวมทั้งหมดถึงปัจจุบันกว่า 13 ครั้ง ทั้งเสพยา ทั้งลักและชิงทรัพย์ ล่าสุดโดนข้อหาอนาจารเด็ก อยู่ระหว่างการประกันตัว ซึ่งตนเองได้ถูกติดกำไร EM แต่ถอดทิ้งไป เพื่อหลบหนี
“ฝากขอโทษครอบครัวของลูกเลี้ยง ทำให้เกิดเป็นปมด้อยเป็นตราบาปกับเด็ก และยอมรับว่าไม่ได้ไปทำแบบนี้กับเด็กคนอื่นอีกแน่นอน หากเจ้าหน้าที่เผยแพร่ใบหน้าตนไปแล้วมีเหยื่อมาชี้ยืนยัน ยินดีให้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้เลย” เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลอาญาธนบุรีดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ประวัติคนร้ายรายนี้ถือว่าโชกโชนมากไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด , ชิงทรัพย์ , อนาจาร ยาวเป็นหางว่าว เป็นภัยสังคม และจากแผนประทุษกรรมในคดีล่าสุดนี้เรียกได้ว่าไม่เหลือศีลธรรมในจิตใจ กระทำกับเด็กผู้หญิงวัยเพียง 12 ปี ที่เป็นลูกเลี้ยงของตนเองได้ และที่รับไม่ได้คือการบังคับให้เด็กเสพยาเสพติด ก่อนลงมือกระทำชำเราเด็ก
ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน หากพบว่าบุตรหลานของท่านเคยตกเป็นเหยื่อ หรือมีแนวโน้มที่จะถูกคนร้ายรายนี้กระทำมิดีมิร้าย โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที