เหตุสุนัขกัดกัน! ฟิวส์ขาด ยิงถล่มผัวเมียบ้านติดกัน ตาย-สาหัส เร่งล่าญาติโหด
บาดหมางจากสุนัขกัดกัน ญาติผู้พี่ถึงกับฉุนฟิวส์ขาด คว้าปืน 9 มม. ยิงถล่ม ผัวเมียบ้านติดกัน เสียชีวิต 1 สาหัสอีก 1 ตำรวจเร่งไล่ตัวญาติโหดสกัดจับตามเส้นทางหลบหนี แต่ไร้วี่แวว เตรียมขอศาลออกหมายจับ วันนี้
ปมเหตุเรื่อง สุนัขกัดกัน ช่วงเย็นวานนี้ ( 20 สิงหาคม 2566 ) ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ วีระพันธ์ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิง ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย เหตุเกิดภายในซอยหลวงนรินทร์ ต.บางไผ่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับทราบ พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ พฐ. เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกติดกัน โดยบ้านหลังเกิดเหตุเลขที่ 26/4 ม.9 ต.บางไผ่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา และที่บริเวณหน้าบ้านพบรถกระบะ จากการตรวจสอบบริเวณด้านท้ายรถ พบผ้าห่มเปอะเลือดกองอยู่ ทราบต่อมาว่า ญาติได้นำผู้บาดเจ็บทั้งสองขึ้นหลังรถ เพื่อจะนำตัวไปส่งโรงพยาบาล แต่รถกู้ชีพโรงพยาบาลพุทธโสธร มาถึงก่อน จึงได้เปลี่ยนถ่ายขึ้นรถกู้ชีพ เพื่อเร่งนำส่งโรงพยาบาล
ทราบชื่อผู้บาดเจ็บต่อมาคือ นายวิสุต สุจาจริง อายุ 38 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก จำนวน 4 นัด และภรรยาคือนางสาวชาลินี พ่วงศรี อายุ 25 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณขา จำนวน 2 นัด ส่วน ผู้ก่อเหตุคือนายกมล อายุ 43 ปี
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบหน้าต่างประตูหลังบ้าน มีร่องรอยแตกของกระจกได้รับความเสียหาย บริเวณพื้นพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก โดยภายในบ้าน บริเวณหน้าห้องนอน พบคราบเลือดไหลนองเต็มพื้นอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ มีเสียงหมาเห่าของบ้านทั้งสองหลังตลอดเวลา กระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. ญาติของนายวิสุต ผู้บาดเจ็บ ได้แจ้งว่า ที่โรงพยาบาลได้โทรศัพท์มาบอกว่า นายวิสุต สุจาจริง ได้เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาลพุทธโสธร
นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ญาติของผู้ก่อเหตุ และผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ทั้งผู้ตาย และผู้ก่อเหตุเป็นญาติกัน รวมถึงตนด้วย ซึ่งทั้งสองก็ปลูกบ้านติดกัน โดยไม่มีรั้วกัน ที่ผ่านมาก็คุยกันตามปกติดี จนกระทั่งเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา ทั้งสองบ้านได้ทะเลาะกัน สาเหตุเกิดจากสุนัขของทั้งสองบ้านที่เลี้ยงไว้ หลุดมาแล้วมากัดกัน จนได้รับบาดเจ็บ ทำให้นายกมล ผู้ก่อเหตุ และนางสาวชาลินี ผู้บาดเจ็บ ต่างทะเลาะด่าท่อกัน ตั้งแต่นั้นเรื่อยมา
ซึ่งนายนายวิสุต ก็มีปากเสียงกับนายกมลด้วย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน โดยแค่การด่าท่อข้ามบ้านกันไปมา จนวันนี้หลานได้มาบอกว่า ทั้งสองบ้านเกิดยิงกัน ตนเองจึงรีบเดินทางเข้าไปดู และพบว่า นายวิสุต ถูกยิงเข้าที่หน้าอก จำนวน 4 นัด ส่วนนางสาวชาลินี ก็ถูกยิงเข้าที่บริเวณขา จำนวน 2 นัด ตนเองและนางสาวชาลินี จึงช่วยกันลากร่างของนายวิสุต ออกมาจากบ้าน เพื่อนำขึ้นหลังรถกระบะ เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เป็นจังหวะที่รถกู้ชีพโรงพยาบาลพุทธโสธร วิ่งเข้ามารับตัวผู้บาดเจ็บ ดังนั้น จึงช่วยกันนำตัวทั้งสองขึ้นรถกู้ชีพไป ซึ่งเวลานั้นนายกมล หลังก่อเหตุได้เดินกลับไปบ้าน พร้อมกับพาลูกเมียขับรถหลบหนีไป
นายอุเทน อายุ 48 ปี เปิดเผยว่า นางสาวชาลินี ซึ่งเป็นน้องสาวของตน ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ก่อนหน้านี้นายกมล กับนายวิสุต มีเรื่องชกต่อยกัน ในช่วงบ่ายที่ตลาดดอนทอง ต.บางตีนเป็ด อ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนจะมีคนเข้ามาห้ามปราม จึงได้แยกย้ายกันไป จากนั้นนายกมล ได้ขับรถกลับมาที่บ้าน และพบนางสาวชาลินี อยู่ที่บ้าน จึงเกิดการทะเลาะกันขึ้น และมีปากเสียงกันอีก
โดยนายกมล ได้ลงมือชกต่อย นางสาวชาลินี แล้วเดินกลับบ้านตนเองไป ต่อมา นางสาวชาลินี จึงได้โทรศัพท์ไปหาสามี เพื่อให้มารับตัวพาไปส่งที่โรงพยาบาล แต่เมื่อนายวิสุต มาถึงจึงได้ตะโกนด่านายกมล ทำให้นายกมล เดินถือปืนออกมาจากบ้าน โดยที่นายวิสุตและนางสาวชาลินี ไม่รู้เลยว่า นายกมลแอบเดินมาที่หลังบ้านแล้ว จากนั้นนายกมล จึงใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยิงผ่านกระจกหน้าต่าง เข้ามาที่ห้องนอน ก่อนจะเดินกลับไปบ้าน แล้วพาลูกเมียขึ้นรถขับหลบหนีไป
ทางด้าน พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบข้อมูล และประวัติถิ่นที่อยู่อาศัย พ่อแม่พี่น้อง ของนายกมลผู้ก่อเหตุแล้ว พร้อมประสานให้แจ้งวิทยุสกัดจับ รถยนต์มิตซูบิชิ ไทรตัน สีดำ 4 ประตู ทะเบียนฉะเชิงเทราแล้ว
หากพรุ่งนี้นายกมล ไม่เดินทางมามอบตัว ก็จะขออนุมัติหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ออกหมายจับต่อไป