ชาวสวนยางตรัง หนุนเพื่อไทยเป็นรัฐบาล หวังแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ
เกษตรกรชาวสวนยาง จ.ตรัง หนุนเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เชื่อแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำได้ เผย สมัยรัฐบาล "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ราคาน้ำยางสูงถึงกิโลกรัมละ 180-200 บาท
วันนี้ (22 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่จุดรับซื้อน้ำยางสด หมู่ 8 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง ได้มีเกษตรกรชาวสวนยาง จ.ตรัง ทยอยนำน้ำยางสดมาขาย ซึ่งราคารับซื้อวันนี้กิโลกรัมละ 42 บาท ขณะที่จุดรับซื้ออื่น ๆ ราคากิโลกรัมละ 40 - 41 บาท
ชาวสวนยาง ต่างก็ยอมรับว่าติดตามการจัดตั้งรัฐบาลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังทราบว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และวันนี้เป็นวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่มาจากพรรคเพื่อไทย ทุกคนลุ้นขอให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เพราะเชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะต้องเข้ามาดูแลพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะราคายางพารา ที่เคยได้สูงสุดในประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ ยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ราคายางเคยสูงถึงกิโลกรัมละ 180-200 บาท ทำเกษตรกรชาวสวนยางดีใจและอยู่ดีกินดีกันถ้วนหน้า ต่อมาในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ราคายางพารา กิโลกรัมละ 80 บาท จึงหวังอยากได้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาบริหารประเทศอีกครั้ง เนื่องจากในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาราคายางพาราตกต่ำต่อเนื่อง เกษตรกรเดือดร้อน รายได้ไม่พอรายจ่าย
เกษตรกรรายหนึ่ง บอกว่า ยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ตนเองเคยไปกรีดยางพารา อยู่บนเกาะมุกด์ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ขณะนั้นราคายางกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งสภาพพื้นที่เป็นเกาะ ก็จะขายยางพาราเดือนละครั้ง ได้เงินนับแสนบาท แบ่งกันแล้วได้ครั้งละ 50,000 บาท ทำให้เกษตรกรอยู่ดีที่สุด
นายสุชาติ หุ้นย่อง พ่อค้ารับซื้อน้ำยางสด บอกว่า เริ่มรับซื้อน้ำยางมาตั้งแต่ปี 2542 มีสมาชิกขายน้ำยางประมาณ 90 ราย เท่าที่สัมผัสกับเกษตรกรชาวสวนยาง พบว่าความเป็นอยู่ รายได้ไม่พอใช้จ่าย ราคายางไม่ดี ฝนก็ตก เกษตรกรได้กรีดน้อย คาดหวังว่ารัฐบาลใหม่ให้ช่วยพยุงราคาปรับราคาขึ้นให้ได้กิโลกรัมละ 100 บาทก็ยังดี จะได้ช่วยกระตุ้นรายได้ให้แก่ชาวสวนได้ เชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทยมาก เพราะเขาเคยทำได้มาแล้ว