สสจ.ฉะเชิงเทรา สั่งอพยพ-งดรับผู้ป่วย ยกเว้นฉุกเฉิน หลังเครน 'รพ.พุทธโสธร' ถล่ม
สสจ.ฉะเชิงเทรา สั่งย้ายผู้ป่วยออกจากตึก เพื่อความปลอดภัย และงดรับผู้ป่วย ยกเว้นกรณีฉุกเฉินเท่านั้น หลังเครนก่อสร้า งรพ.พุทธโสธร ถล่ม ขณะทางโรงพยาบาล แถลงการณ์ ฉบับที่ 1
วันนี้ (29 ส.ค. 66) จากกรณีเมื่อช่วงสายวันนี้ เกิดเหตุเครนถล่ม บริเวณอาคาร 10 ชั้น ที่กำลังก่อสร้าง ภายใน โรงพยาบาลพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา โดยในที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 8 ด้านบนสุดพบร่องรอยของเครนที่หักพาดตกอยู่บนอาคาร ซึ่งช่วงเกิดเหตุเครนถล่ม ทำให้คนขับเครนถูกแรงเหวี่ยงกระเด็นออกมาได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่เหล็กตะขอยกเครนหล่นลงมาทับกระจกหน้ารถหกล้อที่จอดอยู่ด้านล่างจนแตก แท่นปูนถ่วงน้ำหนักด้านหลังล่วงลงมาเกี่ยวสายไฟแรงสูงจนขาด ทำให้ไฟดับทั้งโรงพยาบาล จนเครื่องปั่นไฟดีเซลทำงานกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่ลอยออกมาชาวบ้านตกใจนึกว่าไฟไหม้ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด นายแพทย์ศรีศักดิ์ ตั้งจิตธรรม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา มีคำสั่งย้ายผู้ป่วยในที่อยู่ใกล้อาคารเกิดเหตุออกทั้งหมด ขณะที่ ผกก.เมืองแปดริ้ว สั่งปิดการจราจรหน้าโรงพยาบาลร้อยเปอร์เซนต์ รอคำยืนยันถึงความปลอดภัยจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ก่อนจะเปิดการจราจร
นายแพทย์ศรีศักดิ์ ตั้งจิตธรรม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ให้ผู้รับเหมาและวิศวกรที่ควบคุมงานก่อสร้างสำรวจว่ามีความเสียหายเพิ่มมากกว่านี้หรือไม่ และจะมีโอกาสที่จะกระทบกับอาคารข้างเคียงด้วยหรือไม่
เบื้องต้นตอนนี้ได้ย้ายผู้รับบริการผู้ป่วยในที่อยู่บนตึกพุทธโสธรฝั่งซ้าย ที่อยู่ใกล้เคียงกับอาคารที่เกิดเหตุออกทั้งหมดไปอยู่อีกโซนหนึ่งเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังให้โรงพยาบาลหยุดรับผู้ป่วยนอก ยกเว้นกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินก่อน เพื่อความปลอดภัยทั้งหมด
พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้ปิดการจราจรบริเวณหน้าโรงพยาบาลแบบร้อยเปอร์เซนต์ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรระบายรถออกตามซอยต่างๆ ซึ่งตอนนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่จาก ปภ. ร่วมวิเคราะห์กับวิศกรคุมงานก่อสร้าง ว่าจะเกิดอันตายมากน้อยเพียงใด หากเปิดเส้นทางการจราจรตามปกติ ซึ่งคาดว่าจะต้องปิดไปก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและรอคำยืนยันจาก ปภ.จังหวัดฉะเชิงเทรา
ขณะที่ นางเชาวดี ศรีละ อายุ 53 ปี ภรรยาของนายยงยุทธ คนขับเครน เปิดเผยว่า สามีของตนกำลังยกเหล็กเส้นม้วนขึ้นไปด้านบน แต่น้ำหนักเกิน ซึ่งขณะเกิดเหตุได้ยกขึ้นไปเกือบถึงชั้นแปดแล้ว แต่จู่ๆ สายเครนก็รูดลงมา ทำให้เครนดีดโค่นลงมา สามีของตนจึงถูกเหวี่ยงออกมาจากห้องบังคับ ส่วนเหล็กยกเครนก็หล่นมาทับกระจกรถหกล้อ
ขณะที่แผ่นปูนถ่วงน้ำหนักได้หัก หล่นลงมาเกี่ยวสายไฟแรงสูงจนขาด ทำให้ไฟโรงพยาบาลดับทั้งหมด ขณะนั้นเมื่อไฟดับ เครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงได้ทำงาน ทำให้มีกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยออกมาจากทางด้านหลังตึก คนที่เห็นจึงคิดว่าเกิดเพลิงไหม้
ด้าน นายปิยะพงษ์ มะลิวัลย์ อายุ 39 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนเองมาตกปลาบริเวณเขื่อนริมน้ำเป็นประจำ และเป็นคนที่ชอบมองเครนกำลังทำงานยกของ ซึ่งครั้งนี้ตนเองก็ยืนมองอยู่เห็นเครนยกเหล็กขึ้นไปกำลังจะถึงด้านบน แต่จู่ๆก็รูดลงมาจากรวดเร็ว จนมีเสียงกระจกแตกกระแทกดังสนั่น มีกลุ่มควันลอยออกมา นอกจากนี้ยังมีเศษปูนและอุปกรณ์ก่อสร้างด้านบนหล่นตามมาด้วย ไม่นานนักคนขับเครนก็ออกมาจากที่ก่อสร้าง เดินกุมหัวเข้าโรงพยาบาล
ขณะที่ รพ.พุทธโสธร ออกแถลงการณ์โรงพยาบาลพทธโสธร ฉบับที่ 1 เรื่อง เหตุการณ์รถเครนหล่นขณะก่อสร้างอาคารตึกอุบัติเหตุและศูนย์หัวใจ 10 ชั้น มีรายละเอียดระบุว่า
กรณีเกิดเหตุการณ์วันที่ 29 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ10.50 น. รถเครนหล่น ขณะก่อสร้างอาคารตึกอุบัติเหตุและศูนย์หัวใจ 10 ชั้นในโรงพยาบาลพุทธโสธร
โรงพยาบาลพุทธโสธรจึงขอแถลงเหตุการณ์รถเครนหล่น ขณะก่อสร้างอาคารตึกอุบัติเหตุ และศูนย์หัวใจ 10 ชั้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นชายไทย 1 ราย เข้ารับการรักษาที่ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉินถูก เหล็กกระแทกที่หลัง มีอาการเจ็บหลังแผลถลอกที่ศีรษะ ขณะนี้ทางบริษัทรับเหมา ก่อสร้างอาคารไต้ดำเนินการยึดเครนด้วยสสิงที่หล่นไว้แล้ว กำลังอยู่ระหว่างให้วิศวกรตรวจสอบความปลอดภัย
สำหรับผู้ป่วยนอกที่นัดหมายในวันนี้ (29 สิงหาคม 2566) ต้องการตรวจรักษา โรงพยาบาลเปิดให้บริการที่ห้องตรวจอายุรกรรม2 หน้าอาคารอำนวยการ
โรงพยาบาลมีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของผู้รับบริการจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โรงพยาบาลประสานบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารเรื่องความปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ และส่งผลกระทบกับผู้รับบริการต่อไป