กองปราบ จ่อฟัน ม.157 ตำรวจร่วมงานเลี้ยง 'กำนันนก' เชื่อมีมากกว่า 6 นาย
กองบังคับการปราบปราม เตรียมแจ้ง ม.157 ตำรวจร่วมงานเลี้ยง 'กำนันนก' สัปดาห์หน้า เชื่อมีมากกว่า 6 นาย ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ ชี้หน้าที่ตำรวจต้องควบคุมสถานการณ์-ระงับเหตุ พร้อมทำเรื่องขอย้ายผู้ต้องหา มาอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
วันนี้ (19 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังการประชุมชุดพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อติดตามการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ สว.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต ในงานเลี้ยงบ้าน นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก
พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. ในฐานะโฆษกชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ออกมายืนยันว่า การรับโอนคดีมาสอบสวนต่อจากตำรวจภูธรคภาค 7 ของกองปราบปราม ไม่ใช่เป็นการรื้อคดีมาทำใหม่ แต่เป็นการทำอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุ และข้อกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
ส่วนตำรวจ 13 นาย ก่อนหน้าที่พบว่า อาจจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ ตามมาตรา 157 นั้น พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า ขอเวลาตรวจสอบพยานหลักฐาน และนำมาไล่เลียงเหตุการณ์ทั้งหมดก่อน ซึ่งคาดว่าจะต้องมีมากกว่า 6 นาย ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว ถึงแม้จะอ้างว่า ไปร่วมงานเลี้ยงนอกเวลาราชการ แต่หากเป็นตำรวจแล้ว ก็จะต้องมีหน้าที่ในการควบคุมสถานการณ์ และระงับเหตุให้ได้
นอกจากนั้นคณะทำงานจะทำเรื่องถึง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 เพื่อขอย้ายการฝากขังตัวผู้ต้องหาในคดีมาควบคุมตัวในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งจะต้องย้ายมาจากเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรสงคราม มาที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อป้องกันการแทรกแซงของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง ตำรวจ และอดีตกำนันนก จะถูกคุมขังอยู่ที่เดียวกัน หรือไม่ ขึ้นอยู่กับระเบียบของกรมราชทัณฑ์
ทั้งนี้ ภายในสัปดาห์หน้า คดีนี้จะมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะการแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจที่พบความผิด โดยขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเรียกตำรวจที่เคยให้การไปแล้ว มาให้ปากคำใหม่ แต่ชุดทำงานได้ลงพื้นที่ไปสอบปากคำพยานคนอื่นเพิ่ม เพื่อหาข้อขัดแย้งกับคำให้การหรือไม่ โดยหากตำรวจนายใดให้การเท็จ หรือมีความผิด ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาทันที