บุกศาลากลางจังหวัด! น้ำท่วมเสียหายครึ่งแสน ชาวบ้านคาใจชดเชย 310 บาท

ที่หน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีชาวบ้านจากหมู่บ้านเหล่าโดน ตำบลหนองแค อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ กว่า 80 หลังคาเรือน ที่เชื่อว่าพวกตนเอง ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจ่ายเงินชดเชยน้ำท่วม เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา เพราะจากเหตุการณ์จริงได้ถ่ายภาพรายงาน อบต.หนองแค ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่จาก อบต.มาทำการตรวจสอบ ประเมินค่าเสียหาย บันทึกเสนอต่อคณะกรรมการจ่ายเงินชดเชย ซึ่งเมื่อ 2 วันมานี้ อบต.ได้ไปจ่ายนเงินชดเชยแก่ราษฎรผู้ที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนเสียหาย

ปรากฏว่า เงินที่ได้ กลับไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง คือ น้ำท่วมบ้านเรือน เสียหายมาก ทั้งตัวบ้าน ประตูบ้าน ห้องน้ำ ข้าวของถูกน้ำท่วมเสียหาย ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า หม้อหุงข้าว รถจักรยานยนต์ อื่นๆ คาดความเสียหายน่าจะครึ่งแสน

แต่วันนี้กลับได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายจากน้ำท่วมเพียง 310 บาท และที่เจ็บใจหนักกว่านั้น คือ บ้านที่อยู่ติดกัน ได้รับกว่า 2 พัน ทั้งความเสียหายน้อยกว่าบ้านเรือนของตน และเป็นเช่นนี้กว่า 80 หลังคาเรือน

อยากจะให้ทางราชการ ผู้มีอำนาจได้ทบทวน ตรวจสอบความเสียหายใหม่ เพื่อความเป็นธรรมแก่ราษฎรนี้ด้วย ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ ปภ. จังหวัดศรีสะเกษ ลงมารับเรื่องร้องทุกข์ ร่วมกันชี้แจงแก่ราษฎรที่มายื่นหนังสือในวันนี้

นางเข็มมา ประกายทอง อายุ 62 ปี ชาวบ้านเหล่าโดน หมู่ที่ 10 ตำบลหนองแค อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เล่าว่า น้ำท่วมบ้านเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ได้รับความช่วยเหลืออพยพสัตว์เลี้ยง ขนข้าวของหนีน้ำท่วม ในวันที่ 7 ตุลาคม 2565 รอจนน้ำลดพอที่จะเข้าไปอาศัยอยู่บ้านได้ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ความเสียหายทั้งตัวบ้าน คอกไก่ ปศุสัตว์ เสื้อผ้า ตู้เตียง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว ตู้เย็น หากคิดราคารวมก็ราวครึ่งแสน แต่ตนได้รับสำรวจจากเจ้าหน้าที่ อบต.หนองแค ก็แจ้งว่ากว่า 20,000 บาท แต่พอเงินชดเชยออกมาวันนี้ ได้รับซองค่าชดเชย เพียง 310 บาท

ตนมองว่ามันไม่เป็นธรรม เพราะบ้านข้างๆ ตน ได้รับกว่า 2,000 บาท และไม่ใช่แค่บ้านตน เป็นทั้งหมู่บ้านเหล่าโดน กว่า 80 หลังเรือน วันนี้จึงได้รวมตัวกันมา ยื่นเรื่องร้องทุกข์ขอให้มีการทบทวนการตรวจสอบใหม่ ในการประเมินจ่ายเงินชดเชยในครั้งนี้ เพราะความเสียหายมันมากกว่าที่ได้รับเงินชดเชยมาก

ด้าน นายวัจนปกรณ์ พงษ์พานิช ผช.หน.สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย กล่าวว่า ในส่วนนี้ก็อยู่ที่ต้นตอ ในการสำรวจว่ามันได้น้อย ได้มาก หรืออาจจะได้ไม่เท่ากัน อะไรอย่างนี้ มันต้องมานั่งดูข้อเท็จจริง มาดูความเสียหายที่มันเกิดขึ้นจริง พร้อมกับมาเปิดระเบียบ หลักเกณฑ์ ดูว่าเข้าหลักเกณฑ์ไหม หรือไม่เข้า เดี๋ยวเราก็จะต้องมาเริ่มตรวจสอบกันใหม่ดู

จากนั้นเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับหนังสือร้องทุกข์จากราษฎรที่ขอยืนหนังสือ พร้อมรายชื่อแนบท้ายกว่า 80 หลังคาเรือน เพื่อที่จะได้รับไปดำเนินการตรวจสอบ ประสานข้อมูลกับทาง อบต.หนองแค เพื่อนำเรื่องมาชี้แจงกับราษฎรอย่างเป็นธรรมทุกครัวเรือน ต่างพอใจและเดินทางกลับไปรอฟังผลที่บ้าน