กทม. เร่งพร่องน้ำ ดูแลจุดอ่อน รับมือสถานการณ์ฝนและน้ำทะเลหนุน

กทม. เร่งพร่องน้ำ ดูแลจุดอ่อน รับมือสถานการณ์ฝนและน้ำทะเลหนุน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สั่งการเร่งพร่องน้ำ ดูแลจุดอ่อน พร้อมรับมือสถานการณ์ฝนและน้ำทะเลหนุน

วันนี้ (26 ก.ย.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมรับมือฝนในช่วงนี้ หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ว่า ฝนที่ตกในช่วงนี้จะเยอะเป็นจุดๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตกที่เขตบางนา 143 มม. วานนี้ตกที่เขตสาทร 73 มม. ภาพรวมคือต้องพร่องน้ำให้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคลองต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการไปได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว นอกจากนี้ต้องเฝ้าระวังจุดอ่อน โดยที่เขตบางนามี 2 จุด คือคลองบางนา ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องไฟดับ ต้นไม้หัก จึงจำเป็นต้องมีปั๊มน้ำที่ใช้น้ำมันเตรียมพร้อมไว้ และดูแลต้นไม้บริเวณโดยรอบที่เสี่ยงต่อการหักโค่น อีกจุดคือบริเวณบางนา 30 ซึ่งเป็นคอขวด จากคลองที่มีความกว้าง 10 กว่าเมตร เหลือเพียง 3 เมตร ทำให้น้ำจากด้านเหนือระบายลงมาไม่ได้ และจะมีอีกจุดบริเวณอุดมสุข 103 ที่มีปัญหาคอขวดเช่นเดียวกัน

กทม. เร่งพร่องน้ำ ดูแลจุดอ่อน รับมือสถานการณ์ฝนและน้ำทะเลหนุน

“สุรวงษ์ 36 ซึ่งอยู่ระหว่างการสร้างบ่อพัก ก็มีน้ำท่วม จึงได้สั่งการให้เอาปั๊มน้ำไปติดตั้งเพิ่มตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ส่วนถนนศรีอยุธยาและพระรามหก ก็อยู่ระหว่างการทำ Pipe Jacking ก็สั่งการให้เพิ่มกำลังสูบ จุดอ่อนเรารู้อยู่แล้วว่ามีกี่จุด จึงต้องดูแลให้มากขึ้น สำหรับการที่ฝนตกเป็นหย่อมๆ เจ้าหน้าที่ต้องเคลื่อนที่เร็ว เขตทั้ง 6 กลุ่มโซน ต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ซึ่งสามารถโยกย้ายระหว่างกันได้ ทั้งปั๊มน้ำ หน่วยเบสท์ดูแลช่วยเหลือรถที่เสีย และดูแลประชาชนให้กลับบ้านได้ ต้องเคลื่อนที่ให้เร็ว ทุกคนต้องทำงานให้เต็มที่

กทม. เร่งพร่องน้ำ ดูแลจุดอ่อน รับมือสถานการณ์ฝนและน้ำทะเลหนุน
 

สำหรับเรื่องของน้ำทะเลหนุน เนื่องจากระดับน้ำทะเลจะอยู่สูงกว่ากรุงเทพมหานคร ดังนั้นจำเป็นต้องสูบน้ำออกจากพื้นที่ เราไม่สามารถเปิดประตูน้ำได้ หากฝนตกด้านในต้องสูบออกเท่านั้น โดยต้องเตรียมกำลังสูบให้เพียงพอ ไม่ให้มีไฟดับ เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นกว่านี้ ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติม

กทม. เร่งพร่องน้ำ ดูแลจุดอ่อน รับมือสถานการณ์ฝนและน้ำทะเลหนุน