เก็บหลักฐานกระเป๋าเป้ใส่ปืน กราดยิงพารากอน ผบ.ตร. ถกนำเข้าปืนแบลงค์กัน

เก็บหลักฐานกระเป๋าเป้ใส่ปืน กราดยิงพารากอน ผบ.ตร. ถกนำเข้าปืนแบลงค์กัน

พฐ. เก็บหลักฐานกระเป๋าเป้ใส่ปืน-กระสุนซุกห้องน้ำ กราดยิงพารากอน ผบ.ตร. ถก มหาดไทย กรณีการนำเข้าปืนแบลงค์กัน

ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุเยาวชน เด็ก 14 กราดยิงพารากอน ใช้ปืนยิงกลางห้างดัง ตำรวจเร่งเก็บหลักฐานเกี่ยวข้อง โดยล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังตรวจกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ก่อเหตุสะพายกระเป๋าเป้ใส่ปืน กระสุน แม็กกาซีน ลงจากรถไฟฟ้า เข้าไปในห้องน้ำชั้น เอ็ม ก่อนนำอาวุธปืนออกมา ใส่หน้ากากอนามัย สวมถุงมือ แล้วทิ้งกระเป๋าในห้องน้ำก่อนก่อเหตุ

จากนั้นทางตำรวจจึงเข้าไปตรวจค้นห้องน้ำดังกล่าว จึงพบกระเป๋าถูกทิ้งไว้ และประสานทางกองพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบเก็บรายละเอียดทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำเข้าสำนวนต่อไป

ผบ.ตร. เตรียมหารือ “มหาดไทย” นำเข้าปืนแบลงค์กัน

ตำรวจเร่งหามาตรการดูแลความปลอดภัยหลังเกิดเหตุเยาวชนใช้อาวุธปืนกราดยิงภายในห้างดัง ล่าสุดทางด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ได้นั่งพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ เพื่อความผ่อนคลาย เนื่องจากพบว่าผู้ก่อเหตุยังม่ีความกังวลอยู่ เนื่องจากยังได้ยินเสียง ในลักษณะ หูแว่ว ทำนองว่า “คนนี้สั่งให้ผมยิงคนนี้” ลักษณะมีตัวเขาอีกคนสั่งให้เขายิง ซึ่งลักษณะการก่อเหตุในลักษณะนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์เต็มรูปแบบของ “แอคทีฟ ชู้ตเตอร์

ในการสอบสวนเมื่อคืนนี้เนื่องจากเขาเป็นเยาวชน จะต้องมีแพทย์ อัยการ และสหวิชาชีพประกอบด้วย ทำให้ต้องชะลอการสอบสวนไปก่อน แต่เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบความเคลื่อนไหวการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก

สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับเยาวชนต้องฝากถึงผู้ปกครอง ให้เฝ้าระวังบุตรหลาน โดยสามารถสังเกตุได้จากการโพสต์ข้อความในสื่อโซเชียล เพราะทำให้เราพอจะรู้ได้ว่า เขามีโอกาสที่จะก่อเหตุได้มากน้อยแค่ไหน เด็กอาจถูกกดดันในหลายๆด้าน

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า สำหรับข้อความที่เยาวชนที่ก่อเหตุที่มีการโพสต์ข้อความนั้น คาดว่าจะมีส่วนในการผลักเด็กให้กระทำความรุนแรง ซึ่งเรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวนจะต้องมีการสอบเพื่อนของผู้ก่อเหตุ เพื่อให้รู้ถึงพฤติกรรมก้าวร้าวที่เกิดขึ้น และจะได้วางแนวทางในการป้องกันเหตุ เฝ้าระวังคนในลักษณะแบบนี้ เป็นกรณีตัวอย่างที่เราต้องศึกษา รวมถึงเพื่อนที่ร่วมเล่นเกมเดียวกันกับผู้ก่อเหตุด้วย เพราะเพื่อนที่เล่นเกมด้วยกัน น่าจะรู้ข้อมูลเฉพาะตัวบางอย่างของผู้ก่อเหตุ

“เหตุที่เกิดในห้างสยามพารากอน ต้องถือว่ามีความโชคดีอยู่บ้างที่ก่อนหน้านี้ได้มีการส่งครูฝึก ในโครงการ ”แอคทีฟ ชู้ตเตอร์“ เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ทางพนักงานห้างฯ สามารถที่จะป้องกันเหตุได้เบื้องต้น เพราะขณะเกิดเหตุแต่ละร้านทางพนักงานร้านได้มีการปิดประตู กันคนออกมาข้างนอกร้านได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเตรียมการ มีการสอนไว้แล้ว เป็นการทำเชิงรุก สามารถที่จะช่วยเหลือชีวิตผู้คนได้”

สำหรับปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า เป็นปืนในรูปแบบ “แบลงค์กัน” ตามสถิติพบว่ามักจะใช้ในการก่อเหตุหลายครั้ง ซึ่งเรื่องนี้จะต้องทำการประสานงานกับทางกระทรวงมหาดไทย เพราะปืนในรูปแบบนี้ถือเป็นอาวุธ แต่สามารถซื้อได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เราพบว่ามีการนำเข้ามาจำนวนเยอะมาก และใช้ก่อคดี

ปืนชนิดนี้ มีการนำเอามาดัดแปลง ลำกล้อง และดัดแปลงแมกกาซีน สามารถใช้กระสุนจริงได้ ต้องประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา ควรจะกำหนดให้เป็นสิ่งต้องห้าม ถือเป็นอาวุธ การนำเข้าในแต่ละครั้งควรที่จะต้องมีการแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการเข้าถึงเว็บต่างประเทศ ที่มักมีการเผยแพร่ การสอนใช้อาวุธต่างๆ ซึ่งต้องไปคุยหน่วยงานเกี่ยวข้อง ถึงการเข้าถึงข้อมูล ว่าสิ่งไหนถือเป็นภัยความมั่นคง ที่ผ่านมาทำได้ยาก เพราะเว็บเหล่านี้อยู่ต่างประเทศ แต่เราก็ควรเฝ้าระวัง เพราะคนเสพข้อมูลในลักษณะนี้จำนวนมาก”

ญาติสาวเมียนมา เตรียมรับศพบ่ายนี้ ญาติสาวจีนยังไม่พร้อมรับศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถาบันนิติเวช รพ.ตร.ว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิต หญิงชาวเมียนมา จะเดินทางมารับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ภายหลังจากการผ่าพิสูจน์เสร็จสิ้น

โดยขั้นตอนในการรับร่างนั้น หากเป็นบุคคลคนต่างชาติ ทางญาติจะต้องเดินทางไปที่สถานฑูตของประเทศนั้นๆ ที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ก่อนที่จะให้ทางสถานทูตได้มีการมอบหมายให้กับญาติหรือบุคคลใดที่เกี่ยวข้องมารับร่างผู้เสียชีวิต

ซึ่งทางสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจมีความพร้อม สามารถมอบร่างให้กับญาติได้ทันที เพื่อไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

ขณะที่มีรายงานว่าครอบครัวของหญิงชาวจีนที่เสียชีวิตทางญาติยังไม่พร้อมที่จะมาติดต่อรับศพเนื่องจากยังคงทำใจไม่ได้