โอละพ่อ! หนุ่มใหญ่แต่งเรื่องหลอกเมีย ถูกโจรปล้น ที่แท้เอาเงินให้กิ๊กสาว
คดีพลิก หนุ่มใหญ่ แต่งเรื่องหลอกเมีย ถูกแก๊งเขมรบุกปล้นเงิน ตร.ลงพื้นที่ชุดใหญ่ไม่พบ ก่อนเจ้าตัวสารภาพ สร้างเรื่องเพราะเอาเงินไปให้กิ๊กหมด ไม่เหลือจ่ายค่าไถไร่ กลัวเมียจับได้ เลยจ้างเขมรคนละ 100 ปลอมเป็นโจร สุดท้ายโดนข้อหาแจ้งความเท็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ตำรวจ สภ.คลองหาด จ.สระแก้ว รับแจ้งเหตุด่วนว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.วันนี้ (6 ต.ค.2566) มีผู้เสียหายและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แจ้งว่า มีคนไทยถูกชาวกัมพูชา 3 ราย บุกเข้าไปปล้นเงินจำนวนกว่า 1 หมื่นบาท เหตุเกิดที่บ้านทับทิมสยาม ม.10 ซอย 2 ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
ร.ต.อ.สมปอง อินทร์แก้ว รอง สว.สส.สภ.คลองหาด ร้อยเวร ได้รายงานให้ พ.ต.อ.จากเทพ ผงผาย ผกก.สภ.คลองหาด, พ.ต.ท.เอื้อธนอิศม์ ศรีสมบูรณ์ รอง ผกก.สส.ฯ ,พ.ต.ท.มงคล ประไพ สว.สส.ฯ รับทราบ พร้อมสั่งการให้ ชุดสืบสวนฯ ,เจ้าหน้าที่ร้อยเวร สภ.คลองหาด และฝ่ายปกครอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.10 รวมกว่า 10 นาย ลงพื้นจุดเกิดเหตุช่วงเวลา 05.00-05.30 น.
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านสองชั้น พื้นที่ ม.10 ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว พบนายนิคม อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านและเป็นผู้เสียหายให้การว่า เวลาประมาณ 04.30 น. มีชายชาวกัมพูชาจำนวน 3 คน เข้ามาปล้นทรัพย์ภายในบ้าน โดยคนร้ายได้ใช้เชือกที่ผูกเปลจับตนมัดแขน มัดขาติดไว้กับโซฟาไม้ บริเวณใต้ถุนชั้นล่างของบ้าน และใช้ผ้าอุดปากไว้ พร้อมกับเอาเงินสดในกระเป๋าสะพายไป 800 บาท
นอกจากนี้ คนร้าย 1 ใน 3 คน ได้ใช้เครื่องมือสแกนบัตรอิเล็คทรอนิกส์ กดเงินในบัญชีออกไปอีก 18,000 บาท ซึ่งหลังเกิดเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป
ทั้งนี้ ภายหลังตำรวจได้สืบสวน และตรวจสอบบริเวณโดยรอบ เพื่อหาพยานหลักฐาน พร้อมทั้งสอบถามชาวบ้านข้างเคียง ให้การว่า ช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้ยิน และไม่พบเห็นเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้ามาปล้นทรัพย์ของนายนิคม แต่อย่างใด
และจากการตรวจสอบภายในบ้านพบ นางหมวยแก้ว ชาวกัมพูชา ภรรยาของนายนิคม นอนพักอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน สอบถามให้การว่า ไม่ได้ยินเสียง และไม่มีเหตุการณ์คนร้ายเข้ามาปล้นทรัพย์แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำตัวนายนิคม มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.คลองหาด ถึงเหตุการณ์ สาเหตุ แรงจูงใจ และเงินในบัญชี 18,000 บาท ที่คนร้ายได้สแกนออกไป ซึ่งนายนิคม ยืนยันว่า มีเงินอยู่ในบัญชีจริง จากนั้นจึงได้นำนายนิคม ไปกดเช็คยอดที่ตู้เอทีเอ็ม พบมียอดคงเหลือ 47 บาท และไม่มียอดเงินตามบัญชีที่กล่าวอ้าง
พ.ต.ท.เอื้อธนอิศม์ ศรีสมบูรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.คลองหาด เปิดเผยว่า ได้นำตัวนายนิคม มาเค้นสอบอย่างละเอียด และให้การไม่ตรงกับภรรยา กระทั่งช่วงเวลา 09.00 น. วันนี้ (6 ต.ต.2566) นายนิคม ให้การรับสารภาพว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเป็นผู้แต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกภรรยา เนื่องจากตนได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้จนหมดแล้ว โดยนำไปให้กับกิ๊ก ซึ่งเป็นช่างเสริมสวยอยู่ที่เมืองสระแก้ว และมีญาติมาขายของที่ตลาดศรีเพ็ญ (เขาดิน) ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก และพูดคุยจีบกันมานานประมาณ 1 ปี และได้ขอเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ครั้งแรก 2,000 บาท , ครั้งที่ 2 ให้ไปอีก 3,000 บาท
ล่าสุด เพิ่งให้ไปอีก 5,000 บาท รวมเงิน 10,000 บาท จึงทำให้ไม่มีเงินเหลือไปจ่ายค่าจ้างรถไถไร่มัน ที่ต้องจ่าย 6,000 บาท ในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.2566) พร้อมกลัวว่าภรรยาจะรู้เรื่อง จึงแต่งเรื่องขึ้นมาว่าถูกโจรปล้น โดยได้นัดแนะกับชาวกัมพูชา 3 ราย ที่รู้จักกัน และเคยข้ามมาทำงานรับจ้างฝั่งไทย ให้ทำทีเป็นคนร้ายเข้ามาปล้นและจับมัดไว้กับโซฟาไม้ แล้วใช้ผ้าอุดปากไว้ ก่อนหลบหนีข้ามไปฝั่งกัมพูชา โดยให้ค่าจ้างคนละ 100 บาท
นายนิคม กล่าวว่า สาเหตุที่ว่าจ้างชาวกัมพูชาให้มาทำทีปล้น เพราะนึกอะไรไม่ออก เห็นพวกนี้มาก็คิดได้พอดี โดยวางแผนให้ แล้วให้ค่าจ้างไป ส่วนเงินที่หายไปนั้น ตนได้เบิกไปให้กิ๊กแล้วมาแจ้งตำรวจว่าโดนปล้นทรัพย์ไป 1 หมื่นกว่าบาท โดยหญิงที่เป็นกิ๊กกันนั้น รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก คุยกันผ่านทางแชท ซึ่งตนเล่นเฟซบุ๊กแล้วทักไปหาเขาเพื่อคุยกัน เธอสวย และขอเงินใช้ บอกว่า ไม่มีค่าโน่นค่านี่ ค่าน้ำ ค่าไฟ รายได้ที่ทำร้านเสริมสวยไม่พอใช้
จึงฝากเงินสดกับหลานของเขาที่ขายของที่ตลาดศรีเพ็ญไปให้เขา ซึ่งตัวเธอทำงานอยู่ที่สระแก้ว ไม่รู้อยู่ตรงไหน คุยกันมาประมาณ 1 ปี ให้เงินไป 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1 หมื่นบาท เวลาขาดเหลือก็จะทักแชทมาหา ครั้งแรก 2,000 , 3,000 และล่าสุด 5,000 บาท จนนำไปสู่การสร้างเรื่อง และไปแจ้งความว่าถูกปล้น ซึ่งวันนี้ (6ต.ค.2566) ได้นัดหมายกับเจ้าของรถไถไร่ว่า จะต้องนำเงินมาจ่ายวันนี้ แต่ตอนนี้ไม่มีเงิน ไม่มีทางออกจริง ๆ จึงหาทางออกด้วยวิธีนี้ ไม่คิดว่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจะโทรแจ้งความตำรวจทันที เพราะคิดว่าเป็นเรื่องจริง ตำรวจก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง จึงลงพื้นที่กันจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังสอบสวนและบันทึกคำให้การ ร.ต.อ.สมปอง อินทร์แก้ว รอง สว.สส.สภ.คลองหาด ร้อยเวร สภ.คลองหาด ได้นำตัวนายนิคม ไปลงบันทึกประจำวัน พิมพ์ลายนิ้วมือ และแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จกับพนักงานสอบสวนฯ พร้อมกับนำตัวนายนิคม เข้าห้องคุมขัง สภ.คลองหาด ทันที เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป