หนุ่มเชียงรายทำงานฉนวนกาซา ชี้แคมป์ถูกบุกตาย 17 คน สงครามอิสราเอล-ฮามาส
สงครามอิสราเอล-ฮามาส หนุ่มเชียงรายทำงานใกล้ฉนวนกาซา รอดตายรอรัฐบาลช่วยกลับไทย ชี้แคมป์แรงงานถูกบุกตายกว่า 17 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 8 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ผู้ใช้แรงงานไทยชาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 66 ที่ผ่านมาและได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกองกำลังฮามาส ที่มีต่อประเทศอิสราเอลเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ได้ติดต่อกลับมายังประเทศไทยผ่านทางเพจ “ส่องเชียงราย” ซึ่งเป็นเพจข่าวท้องถิ่นใน จ.เชียงราย ว่าตนเองและพรรคพวกเป็นแรงงานชาวไทยที่เดินทางไปทำงานอยู่ที่เมืองโมชาฟมิสเตอร์คิม ประเทศอิสราเอล ใกล้กับฉนวนกาซา
ซึ่งมีคนไทยประมาณ 200 คน เข้าไปทำงานรับจ้างด้านการเกษตรในหลายหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กัน และในกลุ่มของตนมีประมาณ 20-30 คน เมื่อเกิดเหตุยิงต่อสู้กันได้หลบหนีไปซ่อนตัวในที่ปลอดภัย และพบมีคนที่เสียชีวิตเพราะถูกยิง ถูกระเบิด สูญหายและถูกจับไปเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่ามีคนเสียชีวิตมากกว่า 20 คนและสูญหายมากกว่า 30 คน
โดยการขอความช่วยเหลือได้ส่งคลิปสภาพที่พักหรือแคมป์คนงานที่ถูกกลุ่มติดอาวุธบุกยิงจนมีผู้เสียชีวิตหลายรายกลับมา โดยเป็นภาพการบุกเข้าไปยิงคนภายในห้องพักในระยะใกล้เหตุเกิดในเมืองคิวบูท ประเทศอิสราเอล มีการยิงซ้ำอย่างโหดเหี้ยม
ซึ่งระบุว่าจุดเกิดเหตุเป็นแคมป์คนงานชาวไทยที่อยู่เป็นกลุ่มใหญ่และถูกกำลังติดอาวุธบุกเข้าไปกราดยิงจนมีเสียชีวิต 17 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนของตนและมีผู้ที่หนีรอดออกมาได้เพียง 2 คน ทำให้ตนได้ติดต่อไปยังเพื่อนที่รอดชีวิตเขาก็ยืนยันว่าจุดที่ถูกบุกยิงเป็นแคมป์คนงานซึ่งไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
แรงงานรายนี้ยังได้ระบุว่าหลังเกิดเหตุพวกตนถูกส่งไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อความปลอดภัยและมีกองกำลังทหารของอิสราเอลคอยคุ้มกันอยู่ พร้อมกันนี้เขายังได้ถ่ายคลิปสั้น ประมาณ 30 วินาที ในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 8 ต.ค. ตามเวลาประเทศอิสราเอล โดยเป็นภาพขณะที่แรงานไทยประมาณ 30 คน อยู่ภายในสถานที่คุ้มกันของทหารอิสราเอลและรอการช่วยเหลือให้พาเดินทางกลับประเทศไทย
แรงงานไทยรายนี้กล่าวว่าจนถึงขณะนี้ตนไม่คิดถึงเรื่องอื่นใดอีกนอกจากอยากจะกลับประเทศไทยเท่านั้น แต่ปัญหาหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงใหม่ๆ คือไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้เพราะมีปัญหาเรื่องสัญญานอินเตอร์เน็ตล่ม ดังนั้นหลังจากปลอดภัยและถูกส่งไปยังสถานที่ที่ได้รับการคุ้มกันนี้แล้วก็อยากกลับประเทศไทย ดังนั้น แอดมินเพจได้แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และช่องทางติดต่อไปยังสถานเอกอัคราชฑูตราชอาณาจักรไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ และกรมการจัดหางานเพื่อให้แรงงานคนดังกล่าวได้นำไปโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อขอรับการช่วยเหลือแล้ว