น้ำท่วมวันนี้ ปภ.เผยยังมีอุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด เร่งดูแลช่วยเหลือปชช.

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 14 ตุลาคม 2566 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 35 จังหวัด รวม 145 อำเภอ 553 ตำบล 2,809 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 58,748 ครัวเรือน ปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่ 14 ต.ค. 66 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี รวม 23 อำเภอ 115 ตำบล 689 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,363 ครัวเรือน แยกเป็น

 

1. เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก รวม 20 ตำบล 124 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,886 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

2. พิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ วังทอง บางระกำ และเมืองพิษณุโลก รวม 11 ตำบล 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 351 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3. สุโขทัย น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ สวรรคโลก และคีรีมาศ รวม 12 ตำบล 81 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,819 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

4. ร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ เชียงขวัญ จังหาร และธวัชบุรี รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 106 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

5. กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ เมืองกาฬสินธุ์ ร่องคำ ฆ้องชัย ยางตลาด กมลาไสย สามชัย ท่าคันโท หนองกุงศรี สหัสขันธ์ และห้วยเม็ก รวม 59 ตำบล 397 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,138 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

6. อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ และสว่างวีระวงศ์ รวม 10 ตำบล 49 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,063 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลงเกือบทุกพื้นที่ ยังคงมีที่จังหวัดกาฬสินธุ์และอุบลราชธานีที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน

โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถประกอบอาหาร เพื่อแก้ไขปัญหา เร่งระบายน้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”