แม่ร้อง ลูกสาว ม.3 ถูกเพื่อนพ่อข่มขืน เพิ่งออกจากคุก ถ่ายคลิปหลุดไว้ขู่
สะเทือนใจ แม่ร้อง "ปวีณา" ลูกสาว ม.3 ถูกเพื่อนพ่อข่มขืน เพิ่งออกจากคุก ถ่ายคลิปหลุดไว้ขู่ เล่าเป็นฉากถูกหลอกออกจากบ้าน
ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ โดยแจ้งว่า ปกติพ่อแม่ จะทำงานรับจ้างก่อสร้างอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ
โดยทิ้งให้น.ส.เอ (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 อยู่กับปู่และย่าที่ จ.กาญจนบุรี กระทั่งวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา แม่แทบช็อก หลังย่าโทรศัพท์มาบอกว่า วันที่ 30 ก.ย. ลูกสาวถูกคนร้าย 2 คน โดยคนหนึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของพ่อในหมู่บ้านชื่อ นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี เพิ่งออกจากคุกในคดีข่มขืนได้ไม่นาน
ส่วนอีกคนไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะสวมหมวกไอ้โม่งตลอดเวลา โดยชายสวมหมวกไอ้โม่ง อ้างว่าเป็นตำรวจ ใช้ปืนจ่อหัวลูกสาว ก่อนพาไปในห้างนาบริเวณทุ่งนา ที่มืดเปลี่ยว และผลัดกันข่มขืนขนสำเร็จความใคร่
จากนั้นได้พามาส่งบ้าน พร้อมกับข่มขู่จะยิงทิ้ง ถ้าเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกใคร หลังทราบเรื่อง ผู้เป็นแม่ จึงรีบเดินทางไป จ.กาญจนบุรี และพาลูกสาวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในวันที่ 6 ต.ค.66 ทันที โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และนัดสอบสหวิชาชีพในวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา
นางน้อย (นามสมมุติ) มารดาของเด็กหญิง กล่าวอีกว่า ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า คืนวันที่ 30 ก.ย. มีงานแข่งวัวลานใกล้บ้าน จึงได้ขออนุญาตย่า เพื่อจะไปดูงาน แต่ย่าห้าม และไม่ให้ไป ต่อมาจึงได้แอบนัดกับนายเอก คนในหมู่บ้านที่รู้จักกันในกลุ่มเพื่อน ซึ่งนายเอก ได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับตอน 21.30 น. เพื่อนไปเจอเพื่อนชายอีกคนที่นัดไว้
จากนั้นนายเอก ได้โชว์อาวุธปืน 1 กระบอกให้ดู และอ้างว่าจะมีคนเอาสร้อยมาจำนำ ต้องไปเอาก่อน และนายเอก ก็พาขี่รถจยย. ไปบริเวณที่เปลี่ยว ทางไปทุ่งนาใกล้คลองชลประทาน ก่อนทำทีเห็นกระเป๋าสตางค์ตกอยู่บนถนน และหลอกให้ลูกสาวลงจากรถไปเก็บ
จังหวะนั้นจู่ๆ ก็มีชายสวมหมวกไอ้โม่ง ได้กระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ พร้อมกับใช้อาวุธปืน ข่มขู่ และจี้หัวของลูกสาว โดยคนร้ายได้สั่งห้ามส่งเสียงร้อง มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย ส่วนนายเอก ก็ไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังขี่รถ จยย. ให้ลูกนั่งตรงกลาง โดยมีชายสวมไอ้โม่ง นั่งซ้อนสามกันไป ลูกสาวกลัวมาก คิดว่าตัวเองจะไม่รอดชีวิต และไม่ได้กลับมาหาพ่อแม่แล้ว โดยทางลูกสาวได้ยกมือไหว้ชายสวมไอ้โม่ง และขอร้องให้นายเอก ช่วยเหลือ
แต่นายเอก กลับพาไปที่ห้างนา ก่อนจะร่วมกับชายสวมไอ้โม่งสลับกันข่มขืนลูกสาวและถ่ายคลิปขณะก่อเหตุไว้ด้วย หลังคืนเกิดเหตุลูกสาวกลับมาบ้านก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เครียดมากเพราะรู้สึกผิดที่หนีออกไปตอนกลางคืนจนเกิดเรื่องเกือบจะเอาชีวิตไปทิ้ง จนมีอาการซึมเศร้าไม่รู้จะทำอย่างไร
ผ่านไป 5 วัน เพื่อนๆ ของลูกที่รู้เรื่องได้พากันมาบอกย่า ลูกจึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ย่าฟังก่อนจะมาบอกแม่ให้พาเข้าแจ้งความ ตอนนี้ลูกสาวสภาพจิตใจย่ำแย่มากเพราะกลัวว่าคลิปจะถูกเผยแพร่ แม่ต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.อำนาจ เอี่ยมใจดี ผกก.สภ.พนมทวน สอบสหวิชาชีพ น.ส.เอ ในวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ 2 คนร้าย ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ขณะที่แม่และเด็กหวาดผวาเกรงว่าจะได้รับอันตรายเพราะคนร้ายมีปืนและไม่รู้ว่าไอ้โม่งเป็นใครจึงขอมูลนิธิปวีณาฯ ให้ความปลอดภัยด้วย โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีกับ พ.ต.อ.อำนาจ เอี่ยมใจดี ผกก.สภ.พนมทวน อย่างใกล้ชิด หากจับคนร้ายได้ตำรวจก็จะคัดค้านการประกันตัว
ขณะที่แม่เด็กอยากให้ลูกย้ายโรงเรียนมาอยู่ด้วยที่ จ.สมุทรปราการ ทางมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกระทรวงศึกษาให้ ซึ่งระหว่างนี้แม่และเด็กจะอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ จนกว่าจะจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา