ภัย! หนุ่มโฉดลวงสาวๆ แอปหาคู่ มอมเหล้าถ่ายมีเซ็กส์ ปล่อยคลิปหลุดเก็บเงินกลุ่มลับ
เตือนภัย! แฉวิธี SEX CREATOR หนุ่มโฉดอ้างอยู่กับพี่สาว ล่อลวงสาวๆ แอปหาคู่ มอมเหล้าถ่ายมีเซ็กส์ ปล่อยคลิปหลุดเก็บเงินกลุ่มลับ
กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ตร.ปคม. จับกุมสองผัวเมีย SEX CREATOR ลวงสาวสร้างคอนเทนต์เซ็กซ์สวิงกิ้ง นำคลิปขายในโลกโซเชียล ถูกเปิดเผยหลัง พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. , พ.ต.ท.วรพล เลิศวิระยะพงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ ตำรวจ กก.2 บก.ปคม.ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย 1. นายกันต์กวี อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3502/66 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2566 และ 2. น.ส.รสสุคนธ์ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3503/66 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2566
ในความผิดฐาน “ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยใช้กำลังบังคับ หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ โดยใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะอ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ โดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกฯ, ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะ ที่ไม่สามารถขัดขืนได้,
ร่วมกันกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสินห้าปีโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ร่วมกันกระทำชำเราผู้อื่น ได้บันทึกภาพหรือเสียงการกระทำชำเราหรือการกระทำอานาจารนั้นไว้ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และเผยแพร่หรือส่งต่อภาพรือเสียงการกระทำชำเรานั้นฯ, ร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้า เผยแพร่สื่อลามกอนาจารฯ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันมีลักษณะลามกอนาจารฯ
แฉวิธีหนุ่มโฉดล่อลวงสาวๆ แอปหาคู่
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. ได้ทำการ สืบสวนทราบว่า มีบัญชีทวิตเตอร์ (X) ชื่อ ลงภาพและคลิปวิดีโอโป๊ โดยเป็นคลิปการร่วมประเวณีลักษณะหลายคนสลับกัน (สวิงกิ้ง) ซึ่งคลิปดังกล่าวได้มีการโพสต์ลงช่องทางทวิตเตอร์จำนวนหลายคลิป ความยาวคลิปละประมาณ 30 วินาที อีกทั้งยังมีข้อความโฆษณาเชิญชวนให้ผู้สนใจที่ อยากดูคลิปเต็ม เข้าร่วมกลุ่มลับผ่านแอปพลิเคชัน Telegram โดยผู้ที่จะเข้ากลุ่มจะต้องเสียค่าสมาชิกในราคา 450 บาท นอกจากนี้ยังมีการเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าชมคลิปผ่านเว็บไซต์ OnlyFans อีกด้วย โดยคิดราคาเข้าชมผ่าน OnlyFans เดือนละ 17 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทนประมาณ 700 บาท)
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าบัญชีทวิตเตอร์ (X) ดังกล่าวเป็นของนายกันต์กวีฯ และ น.ส.รสสุคนธ์ฯ ซึ่งนอกจาก นายกันต์กวีฯ และ น.ส.รสสุคนธ์ฯ จะเป็นผู้โพสต์คลิปดังกล่าวเเล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจสอบภาพคลิปวิดีโอต่าง ๆ ปรากฏพบภาพนายกันต์กวีฯ และน.ส.รสสุคนธ์ฯ ร่วมมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายอื่นด้วย ซึ่งมีการถ่ายคลิปและนำไปเผยแพร่กว่า 50 คลิป
โดยมีทั้งหญิงสาวที่สวม ชุดนักเรียนมัธยมศึกษา และชุดนักศึกษา และยังมีหญิงสาวบางราย มีลักษณะเมาสุรา ขาดสติ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จากข้อเท็จจริงดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับ นายกันต์กวีฯ และน.ส.รสสุคนธ์ฯ ในข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้าสิ่งอื่นใดอันลามกฯ”
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. นำโดย พ.ต.ท.วรพล เลิศวิริยะพงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. ได้นำหมายค้นเข้าค้นห้องพักของผู้ต้องหาทั้งสอง โดยสามารถจับกุม นายกันต์กวีฯ และ น.ส.รสสุคนธ์ฯ ได้ที่ห้องพักคอนโดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งห้องดังกล่าวใช้เป็นสถานที่ในการถ่ายคลิป อีกทั้งยังได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ และเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหาทั้งสอง จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ และเครื่องคอมพิวเตอร์พบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ (X), Telegram และ OnlyFans ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจริง นอกจากนี้ยังพบคลิปสื่อลามกอนาจารอีกเป็นจำนวนมาก
จากการสืบสวนขยายผลจากคลิปวิดีโอดังกล่าว พบว่าหญิงสาวส่วนใหญ่ที่ร่วมประเวณีด้วย มักจะมีอาการคล้ายคนเมา ไม่มีสติ หลังจากนั้นจะถูกผู้ต้องหาทั้งสองล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่สมัครใจ และถ่ายคลิปวิดีโอเผยแพร่ ซึ่งจากการสืบสวนทำให้ทราบตัวผู้เสียหายในเบื้องต้น จำนวน 2 ราย คือ
1. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ประกอบอาชีพรับจ้าง โดยเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง ซึ่ง น.ส.เอ
ให้การว่า ตนได้รู้จักกับนายกันต์กวี ผ่านแอปหาคู่ “Omi” ต่อมาวันที่ 9 ตุลาคม 2566 นายกันต์กวีฯ ได้นัดให้ตนมานั่งดื่มกินที่คอนโดมิเนียมของผู้ต้องหา โดยออกอุบายว่า อยู่กับพี่สาว (น.ส.รสสุคนธ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 2) ซึ่งทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ เดินทางไปที่ห้องพัก ซึ่งภายหลังเมื่อถึงห้องพัก ผู้ต้องหาทั้งสองจึงได้มอมเหล้า น.ส.เอ จนขาดสติ โดย น.ส.เอ ไม่ทราบว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ และถ่ายคลิปวีดีโอไว้ จนกระทั่งมาทราบภายหลัง
2. น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ประกอบอาชีพพนักงานบริษัท ให้การว่า ได้รู้จักกับ น.ส.รสสุคนธ์ฯ ใน แอปหาคู่ “Omi” โดยได้พูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาวมาเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน ต่อมาในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 น.ส.รสสุคนธ์ฯ ได้นัดให้ตนมาดื่มกินที่คอนโดมิเนียม โดยออกอุบายว่า อยู่กับน้องชาย (นายกันต์กวีฯ ผู้ต้องหาที่ 1) ซึ่งทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้เดินทางไปหาผู้ต้องหาที่ห้องพัก ซึ่งภายหลังเมื่อถึงห้องพัก ผู้ต้องหาทั้งสองจึงได้มอมเหล้า น.ส.บี จนขาดสติ โดย น.ส.บี ไม่ทราบว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ และถ่ายคลิปวีดีโอไว้ จนกระทั่งมาทราบภายหลังเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ตนทราบ
ทั้งนี้ ผู้เสียหายทั้งสองได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ ตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากข้อเท็จจริงเพิ่มเติมดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา “ค้ามนุษย์ฯ จากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกฯ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การภาคเสธ โดยให้การว่า ทั้งสองมีอาชีพทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการร่วมประเวณีสวิงกิ้งระหว่างทั้งสองกับหญิงสาวอื่น ๆ โดยจะนำคลิปไปขายตามแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทวิตเตอร์ (X), Telegram และ Onlyfans โดยนายกันต์กวีฯ จะเป็นผู้หาหญิงสาวมาร่วมประเวณีด้วย โดยจะใช้ แอปพลิเคชันหาคู่ “Omi” พูดคุยกับหญิงสาวในลักษณะเชิงชู้สาว จากนั้นจะชักชวนเหยื่อให้มาดื่มกินที่คอนโดมิเดียม โดยจะใช้อุบายอ้างว่ามีพี่สาวอยู่ด้วย จึงทำให้เหยื่อเชื่อว่าปลอดภัย เดินทางไปหา หลังจากนั้นพวกตนจะมอมเหล้าเหยื่อ ก่อนจะร่วมกันมีเพศสัมพันธ์ โดยนายกันต์กวีฯ และ น.ส.รสสุคนธ์ฯ จะสลับกันถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว ก่อนจะนำคลิปมาขายในกลุ่มลับ โดยผู้ต้องหาทั้งสองยอมรับว่าทำในลักษณะนี้มานานกว่า 6 เดือน รายได้รวมประมาณ 600,000 บาท
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า อยากฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว ขอให้หยุดความคิดนั้นจะดีกว่า หากไม่อยากถูกจับติดคุก ทุกวันนี้ตำรวจมีศักยภาพมากพอ สามารถสืบสวนแกะรอยสืบสวนติดตามได้ และยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ไม่มีข้อยกเว้น
นอกจากนี้ยังอยากฝากไปถึงผู้ปกครอง ให้คอยจับตาเฝ้าระวังบุตรหลานให้ดี เพราะทุกวันนี้อาชญากรมีอยู่รอบตัว สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แม้แต่ผู้ใหญ่ยังถูกหลอกได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังบุตรหลาน เกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ให้ดี