อัยการภาค 9 ตั้งโต๊ะแถลงปัดเอี่ยว 'เสี่ยแป้ง นาโหนด'
อัยการภาค 9 ตั้งโต๊ะแถลงปัดเอี่ยว "เสี่ยแป้ง นาโหนด" หลังถูกมือดีส่ง จดหมายข่มขู่ หวั่นเป็นแผนปั่นกระแสเบนความสนใจ
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่สำนักงานอัยการภาค 9 จังหวัดสงขลา นายเลอศักดิ์ ดุกสุขแก้ว อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา ได้รับการอนุญาตจากสำนักอัยการสูงสุดให้ตั้งโต๊ะแถลงต่อกรณีที่ถูกจดหมายจากบุคคลไม่หวังดีข่มขู่เอาชีวิต โดยอ้างถึง "เสี่ยแป้ง นาโหนด" กระทั่งได้แจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสงขลา ไว้เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาแล้วนั้น
ล่าสุด นายเลอศักดิ์ ดุกสุขแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ตนตกเป็นเหยื่อ จากการถูกข่มขู่เอาชีวิต และตกเป็นเหยื่อจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ที่ถูกนำไปเผยแพร่ ทำให้ตนและสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ขออธิบายว่า ประวัติการรับราชการตลอดที่ผ่านมา ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ "เสี่ยแป้ง" แต่อย่างใด เนื่องจากขณะเกิดคดี "เสี่ยแป้ง" ประมาณปี 62 นั้นตนเองรับราชการอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งขณะนั้นเป็นอัยการคุ้มครองสิทธิ ดังนั้นความเกี่ยวโยงกับตนมันไม่มีเลย
นายเลอศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเท็จจริงในเรื่องของจดหมายข่มขู่นั้น เนื่องจากได้เข้ามาทำงานในเช้าวันจันทร์ เวลา 08.00 น. ที่ห้องของสำนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ธุรการ เจอกระดาษวางอยู่บนโต๊ะเสนอสำนวนคดี เป็นกระดาษ A4 พับวางอยู่โดยเรียน "คุณปาน" และลงวันที่ แต่ลักษณะของเอกสารดูผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงนำมาให้ตรวจสอบพร้อมกัน
ซึ่งเนื้อความในจดหมายนั้นเป็นเท็จ เช่น มีการกล่าวถึงภรรยา ซึ่งแท้จริงแล้วตนยังโสด ไม่มีครอบครัวแต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว จะเป็นการสร้างความปั่นป่วน หรือใส่ร้ายหรือเบี่ยงเบนความสนใจหรือไม่นั้น ยังต้องสอบสวน แต่การนำเสนอของสื่อที่ออกไป ทำให้เข้าใจได้ว่า ตนเองเป็นผู้กระทำผิดทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ส่วนสาเหตุเป็นเพราะอะไรนั้น ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะบริบทที่เกิดขึ้นในขณะนี้ อาจเป็นไปได้ว่า จะเป็นการข่มขู่จากคดีที่กำลังเกิดขึ้นหรือไม่ แม้ส่วนตัวจะคิดว่า "เสี่ยแป้ง" อาจไม่ได้เป็นคนทำ เพราะเขาอยู่ในภาวะที่ต้องหลบหนี แต่ครั้งนี้เป็นการสร้างความปั่นป่วน ให้กับกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ เพราะการที่มีผู้ไม่หวังดี ส่งจดหมายมาข่มขู่พนักงานอัยการไม่ควรเกิดขึ้น และตนก็ไม่ได้เกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ
เมื่อถามว่า อาจเป็นพฤติกรรมของบุคคลภายในสำนักอัยการหรือไม่ ที่นำจดหมายมาวางไว้นั้น นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ไม่กล้าสันนิษฐานใด ๆ แต่การเข้าออกภายในสำนักงานนั้น ไม่ได้เข้าออกกันง่าย ๆ หากเป็นบุคคลภายนอก จะเข้ามาก็ยากหน่อย
อย่างไรก็ตาม ในด้านการหาหลักฐานดำเนินคดี ขณะนี้อยุ่ระหว่างการตรวจสอบลายนิ้วมือบนจดหมาย และนำกล้องวงจรปิดทั้งหมด ของสำนักงานอัยการภาค 9 ไปตรวจสอบ คาดว่าจะรู้ตัวคนทำ และความเชื่อมโยงในการก่อเหตุได้ในไม่ช้า
นายเลอศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายถึงด้านความความสัมพันธ์ กับอัยการรายหนึ่งที่ปรากฎชื่อว่า มีความเกี่ยวพันกับคดี “เสี่ยแป้ง” นั้น ยืนยันตนไม่ได้รู้จักกัน ประกอบกับห้วงเวลาที่เกิดคดี ก็มิได้รับราชการอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง สามารถยืนยันได้แน่นอน