รมว.แรงงาน จ่อชง 'ขอวันหยุดพิเศษ-ลาคลอด' รับค่าจ้าง 98 วัน เข้าครม. สัปดาห์หน้า

รมว.แรงงาน จ่อชง 'ขอวันหยุดพิเศษ-ลาคลอด' รับค่าจ้าง 98 วัน เข้าครม. สัปดาห์หน้า

พิพัฒน์ รมว.แรงงาน ทำทันที สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ขอวันหยุดพิเศษ ลาคลอดบุตร ได้รับค่าจ้าง 98 วัน ดันเข้า ครม.ในสัปดาห์หน้า

วันนี้ (2 พ.ย. 66) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และคณะ เข้าพบเพื่อหารือนโยบายแรงงานเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจในการปกป้องและพัฒนาประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ใช้แรงงานในภาพรวม โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน

รมว.แรงงาน จ่อชง \'ขอวันหยุดพิเศษ-ลาคลอด\' รับค่าจ้าง 98 วัน เข้าครม. สัปดาห์หน้า

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ขอขอบคุณสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ที่ได้นำคณะผู้นำสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ 14 แห่ง มาเข้าพบเพื่อรับทราบนโยบายแรงงานและหารือขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานกับสมาพันธ์ฯ โดยขอให้คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์แก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 

รมว.แรงงาน จ่อชง \'ขอวันหยุดพิเศษ-ลาคลอด\' รับค่าจ้าง 98 วัน เข้าครม. สัปดาห์หน้า

เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ เกี่ยวกับการลาเพื่อคลอดบุตร และการจ่ายค่าทำงานในวันหยุดซึ่งเป็นวันหยุดพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี โดยในเรื่องนี้กระทรวงแรงงานจะนำร่างประกาศมาตรการขั้นต่ำของสภาพการจ้างงานในรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ….) แก้ไขเพิ่มเติม บทนิยาม “วันหยุด” หมายความรวมถึงวันหยุดพิเศษตามมติ ครม. และแก้ไขเพิ่มเติมให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรโดยได้รับค่าจ้าง 98 วัน เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า
 

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว และฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรองนั้น ในเรื่องนี้กระทรวงแรงงานยืนยันว่าจะเร่งผลักดันเพื่อประกาศรับรองอนุสัญญาฉบับที่ 98 ให้ก่อนแน่นอน ส่วนอนุสัญญาฉบับที่ 87 นั้น จะต้องหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งไม่ง่ายและต้องค่อยเป็นค่อยไปตามขั้นตอน

“สิ่งใดที่กระทรวงแรงงานเดินไปพร้อมๆ กันได้ เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ลูกจ้าง นายจ้างอยู่ได้ทั้งสองฝ่าย ผมขอให้สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ช่วยเป็นกระบอกเสียงเจรจากับนักลงทุน โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือแม้กระทั่งนักลงทุนชาวยุโรป เพื่อให้เขาหันมาลงทุนในอีอีซีมากขึ้น เป็นการเรียกความเชื่อมั่นและคลายความกังวลให้กับนักลงทุน ภายหลังโควิดคลี่คลาย เพื่อให้อุตสาหกรรมฟื้นตัวและเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ”นายพิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด

ด้าน นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นอย่างยิ่งที่เปิดโอกาสให้เข้าพบและรับทราบนโยบายด้านแรงงานในวันนี้ ซึ่งผลจากการหารือในครั้งนี้สมาคมฯ และเครือข่ายสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยินดีที่จะเป็นกระบอกเสียงสื่อสารไปยังกลุ่มนักลงทุนเพื่อให้กลับมาลงทุนในอีอีซีมากขึ้น ขณะเดียวกันยินดีที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกเครือข่าย สรส.ได้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนเป็นกรรมการประกันสังคม ตามที่ได้ขยายเวลารับสมัครเลือกตั้งฯ ออกไปจนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายนนั้น ทั้งนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องแรงงานเอง