งานกาชาดที่สวนลุมฯ 8-18 ธ.ค.นี้ กทม. ย้ำรักษาสิ่งแวดล้อม เข้มงวดความปลอดภัย
งานกาชาดที่สวนลุมฯ 8-18 ธันวาคมนี้ กทม.ย้ำผู้จัดงานรักษาสิ่งแวดล้อม เข้มงวดความปลอดภัย เล็งเพิ่มรถ Feeder บริการประชาชน
วันนี้ (7 พ.ย. 66) นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ประชุมคณะทำงานกำกับ ดูแล การใช้พื้นที่สวนลุมพินีจัดงานกาชาดประจำปี 2566 ครั้งที่ 2/2566 ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สำนักเทศกิจ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักพัฒนาสังคม สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย และผู้แทนหน่วยงานภายนอก ได้แก่ สภากาชาดไทย และกรมโยธาธิการและผังเมือง ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในที่ประชุมว่า ในช่วงปลายปี 2566 จะเป็นช่วงที่มีงานค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์สาขาต่าง ๆ ภายในประเทศ 11 สาขา ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยมี “เฟสติวัล” เป็นสาขาที่สำคัญ ทั้งนี้ ประเทศไทยจะมีการจัด Winter Festival ขึ้นทั่วประเทศ ส่วนกรุงเทพมหานครจะมีงานชื่อว่า “Colorful Bangkok” สร้างสีสันให้กรุงเทพฯ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2566 ถึงเดือนมกราคม 2567 ซึ่งจะมีงานที่เป็นไฮไลต์ภายใต้ร่มใหญ่ Colorful Bangkok 2023 ประกอบด้วย งานกาชาด (8-18 ธ.ค. 66) Amazing Thailand Marathon Bangkok (3 ธ.ค. 66) งานลอยกระทง (27 ธ.ค. 66) วิจิตรเจ้าพระยา (1-31 ธ.ค. 66) Awakening Bangkok (24 พ.ย. - 3 ธ.ค. 66) รวมถึงงานศิลปะต่าง ๆ อีกมากมาย ดังนั้น ในการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับงานกาชาดจึงขอให้อยู่ภายใต้ร่มเดียวกันนี้ โดยขอให้มีโลโก้ “Colorful Bangkok 2023” ปรากฏในสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ด้วย
สำหรับการประชุมในวันนี้ ผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ได้รายงานความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการใช้พื้นที่สวนลุมพินีจัดงานในความรับผิดชอบของตน อาทิ จำนวนหน่วยงานที่ตอบรับร่วมออกร้านขณะนี้ การบริหารจัดการสิ่งปฏิกูล การบริหารจัดการจราจร การจัดจุดจอดรถจักรยานยนต์สำหรับไรเดอร์ (Delivery) การจัดตั้งกองอำนวยการร่วม การจัดการขยะภายในงาน การให้บริการ Feeder จากพื้นที่จอดรถมายังพื้นที่จัดงาน การจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย เช่น เหตุเพลิงไหม้ การจัดบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ การควบคุมการใช้เสียง เป็นต้น
โดยในวันนี้ รองผู้ว่าฯ กทม. ได้เน้นย้ำในเรื่องของสิ่งแวดล้อม การแยกขยะ “ไม่เทรวม” การดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ เข้มงวดการตรวจอาวุธ รวมไปถึงให้พิจารณาเพิ่มจำนวนรถ Feeder ในช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากด้วย