ฝนตกหนัก ลมแรงข้าวล้ม จมน้ำเสียหาย
อุทัยธานีฝนตกหนัก ลมแรงข้าวล้ม จมน้ำเสียหาย
เกษตรกรชาวนาจังหวัดอุทัยธานีในหลายพื้นที่ เกิดฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง 2 วันติดต่อกัน ส่งผลให้พื้นที่นาข้าวหลายพื้นที่ ข้าวล้มจมน้ำได้รับความเสียเป็นบริเวณกว้าง นาข้าวหลายแปลงใกล้จะเก็บเกี่ยวไปขายในไม่อีกกี่วันข้างหน้า และถึงวันเก็บเกี่ยวจริงคงโดนความชื้นและต้องถูกกดราคาต่ำลงอย่างแน่นอน
ที่จังหวัดอุทัยธานี ฝนที่ตกหนักและมีลมกรรโชกแรงมา 2 วัน ติดต่อกัน ในหลายพื้นที่ อย่างพื้นที่ตำบลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ที่ผู้สื่อข่าวลงไปสำรวจตั้งแต่เช้าตรู่ ได้พบกับเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ดังกล่าว กำลังมาดูความเสียหายของแปลงนา ที่เพราะปลูกไว้ เป็นพันธุ์ข้าว กข 74 ซึ่งต้องใช้ระยะเพราปลูกตั้งแต่หว่าน ปักดำ จนถึงอายุเก็บเกี่ยวเป็นเวลา 140 วัน เป็นข้าวใช้เวลาปลูกนานแต่น้ำหนักดีเมื่อเกี่ยวไปขาย และแปลงนาข้าวดังกล่าวของเกษจรกรชาวนารายนี้
และแปลงนาของเกษตรกรรายอื่นๆที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ข้าวที่มีทั้งกำลังตั้งท้องออกรวง รวมถึงข้าวอีกไม่ถึงสัปดาห์ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขายได้แล้ว ต้นข้าวรวงหักพังราบเป็นหน้ากลองกำลังจะได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
ส่งผลให้เกษตรกรชาวนากำลังทุกข์หนัก หากฝนตกลงมาซ้ำอีก ก็จะเพิ่มความเสียหายไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะข้าวที่มีอายุจะเก็บเกี่ยวและ ซึ่งเกษตรกรชาวนาตั้งความหวังก่อนหน้านี้ว่าปีนี้ราคาข้าวดีกว่าปีที่ผ่านมา คือมีราคาตันละกว่า 1 หมื่นบาท จะได้ผลกำไรเป็นกอบเป็นกำ มีใช้หนี้ค่าพันธุ์ข้าว ค่าปุ๋ย ค่า ยา และยังมีเงินใช้หนี้ในส่วนอื่นๆ
รวมทั้งยังมีเงินเก็บและมีทุนทำนาโดยไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินใคร แต่ความฝันได้พังทลายที่ต้อเจอกับภัยธรรมชาติ ข้าวที่ล้มจมน้ำ เมื่อถึงเก็บเวลาเก็บเกี่ยว ข้าวจะมีความชื้นสูงเมื่อนำไปขายจะถูกหักความชื้นและถูกกดราคาและต้องพากันขาดทุนอย่างแน่นอน
ในขณะเดียวกันฝนที่ตกลงมาดังกล่าวในพื้นที่เดียวกัน ได้ส่งผลดีให้เกษตรกรชาวนา ที่เพิ่งเพาะปลูกข้าวรอบใหม่ ซึ่งข้าวกำลังเริ่มเจริญเติบโต และอยู่ในวัยที่ต้องการน้ำ และมีน้ำขังในแปลงนา โยไม่ต้องลงทุนทุนสูบน้ำจากแหล่งน้ำของตนเอง เพื่อไปหล่อเลี้ยงต้นข้าว และสามารถสำรองแหล่งน้ำไว้ ตอนที่แปลงนาต้องเจอกับสภาพความแห้งแล้งข้างหน้า จะได้มีแหล่งน้ำ สูบน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้