คุมตัว 'อาก๋ง' ฝากขังศาล เจ้าตัวยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างถูกกลั่นแกล้ง

คุมตัว 'อาก๋ง' ฝากขังศาล เจ้าตัวยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างถูกกลั่นแกล้ง

คุมตัว 'อาก๋ง' ฝากขังศาลบุรีรัมย์ ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างถูกใส่ร้าย-กลั่นแกล้ง ด้านลูกศิษย์นัดรวมตัวให้กำลังใจ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครมา

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ร.ต.อ.หญิง มริสา ศรีสุยงค์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำตัวนายฉัตรพงษ์ หรือ 'อาก๋ง' อายุ 60 ปี เจ้าของตำหนักอาก๋งแม่ระเบียงทอง ไปสอบสวนเพิ่มเติม และเตรียมนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์วันนี้ โดยคดีนี้สืบเนื่องมาจากกรณีแม่ของเด็กสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความเอาผิดนายฉัตรพงษ์ในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

 

 

ระหว่างที่ตำรวจนำตัวนายฉัตรพงษ์ หรือ 'อาก๋ง' ผู้ถูกกล่าวหา ออกจากห้องขังไปสอบสวนเพิ่ม เนื่องจากมีผู้เสียหาย 2 ราย ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างและคาดว่าน่าจะถูกใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งมากกว่า

 

ต่อมา พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมกำลังไว้รักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าจะมีลูกศิษย์อาก๋งเดินทางมาให้กำลังใจที่สถานีตำรวจ และศาลจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ปรากฏว่าไม่มีลูกศิษย์อาก๋งเดินทางมาแต่อย่างใด

 

ส่วนบรรยากาศที่ตำหนักอาก๋งแม่ระเบียงทอง ยังคงมีลูกศิษย์มาปัดกวาดอยู่ในสำนักเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าสำนัก และลูกศิษย์ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าอาก๋งจะมีพฤติกรรมตามที่ปรากฏเป็นข่าว

 

 

น.ส.ฟ้า (นามสมมติ) อายุ 47 ปี หนึ่งในลูกศิษย์อาก๋ง เล่าว่า นับถืออาก๋งมานานกว่า 1 ปี มีความรู้สึกเลื่อมใสเพราะอาจารย์เป็นคนดี สั่งสอนลูกศิษย์ในทางที่ดี ถ้ามีเรื่องเดือดร้อนจะเข้ามาปรึกษา อาจารย์ก็จะแก้ไขปัญหาได้ เช่นการดูดวงชี้ช่องทางให้

 

ด้านนายประเสริฐ มีศักดิ์ ประธานชุมชนโคกกลาง ต.อีสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งตำหนักอาก๋งแม่ระเบียงทอง กล่าวว่า สำนักนี้เพิ่งเข้ามาอยู่ชุมชนเมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา ทราบว่าก่อนหน้านี้อยู่อีกคุ้มหนึ่งในตำบลเดียวกัน เท่าที่เห็นลูกศิษย์ของอาก๋งจะเป็นคนนอกพื้นที่หรือคนต่างจังหวัดเดินทางมาทำกิจกรรมภายในตำหนัก คนในชุมชนนี้ยังไม่มีใครเข้าไปร่วมมากนัก ยอมรับว่าตกใจที่เกิดเรื่องขึ้น ตอนนี้ได้แต่เตือนคนในชุมชนให้ระวัง

 

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ผู้เสียหายมาแจ้งความ 2 ราย รายแรกได้แจ้งข้อหากับผู้ถูกกล่าวหา 3 ข้อหา คือ 1.พรากผู้เยาว์อายุสิบห้าปีแต่ยังไม่ถึงสิบแปดปีไปเสียจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย 2.พาเด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายลวงขู่เข็ญใช้กำลังประทุนร้ายใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด 3.อนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

 

ส่วนผู้เสียหายอีกรายได้กล่าวหาว่ากระทำการล่วงละเมิด ซึ่งตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาเพราะต้องรอผลพิสูจน์ของแพทย์จากโรงพยาบาลก่อน ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์ หากผลของแพทย์ยืนยันจึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก

 

ข่าวโดย เรืองรุจ วังแจ่ม จ.บุรีรัมย์