ขอทานสาวจีน ถือวีซ่านศ. ฉวยโอกาสเรียนออนไลน์ มานั่งขอทานกลางกรุง
ผบช.สตม. สั่งตำรวจ ตม. ทั่วประเทศ สอบปมขอทานจีน เผยหนึ่งในผู้ต้องหาถือวีซ่านักศึกษาวิทยาลัยลำพูน พบใช้เอกสารเดินทางถูกต้อง แต่ฉวยจังหวะเรียนออนไลน์ ไปนั่งขอทานกลางกรุง ตร.ยันมีความผิด พร้อมเร่งเพิกถอนวีซ่า ผลักดันออกประเทศทันที ย้ำไม่มีเอี่ยวก๊วนตำรวจ ตม. เอื้อทุนจีนเทา
ความคืบหน้า “กัน จอมพลัง” ประสานตำรวจหลายท้องที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ติดตามจับกุมกลุ่มขอทานชาวจีน ซึ่งแต่ละรายมีใบหน้าแหลกเหลว คล้ายถูกรอยไหม้ หรือถูกน้ำกรดสาดหน้า มานั่งขอทานตามสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีรายได้ตกวันละกว่าหมื่นบาท จนสร้างความตื่นตระหนกในสังคมไทย ว่ามีกลุ่มคนเหล่านี้มาหากินลักษณะดังกล่าวนั้น
ล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ บก.สส.สตม. ตลอดจน บก.ตม. ทั่วประเทศตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มขอทานชาวจีน ที่เข้ามาใช้ประเทศไทย ทำมาหากิน โดยตามหลักของกฎหมาย จะต้องมีโทษความผิดจนถึงขั้นถูกเพิกถอนวีซ่า
ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาขอทานสาวจีน ที่ถูกตำรวจ สน.บางพลัด จับกุมตัวไว้ได้บริเวณหน้าห้างแห่งหนึ่ง ย่านปิ่นเกล้า นั้น จากการที่ตรวจสอบเอกสารเดินทางเข้าประเทศ พบว่าเจ้าตัวใช้วีซ่านักเรียน โดยเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใน จ.ลำพูน จากนั้นทาง บช.น.จึงได้ประสานกับทาง สตม.เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเรื่องนี้
โดยสอดคล้องกับคำสั่งของ ผบช.สตม. ที่ได้สั่งการ ให้ ตำรวจ ตม.ทั่วประเทศทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีรายงานด้วยว่า จากการที่ตำรวจ บก.ตม.5 ทำการตรวจสอบ พบ หญิงรายดังกล่าวเดินทางเข้ามาประเทศไทยไม่ถึงปี ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว จากนั้นได้เข้าสมัครศึกษาเล่าเรียนที่วิทยาลัยดังกล่าว จึงมีการเปลี่ยนวีซ่าเป็นแบบนักเรียน
เมื่อตรวจสอบเอกสารพบว่า มีการใช้เอกสารหลักบานการเดินทางอย่างถูกต้องทุกอย่าง ตลอดจนทาง ตำรวจ ตม. มีการทำความร่วมมือกับทางสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เกี่ยวกับการให้ข้อมูลนักศึกษาต่างชาติ จึงทำให้ทราบว่า ขอทานหญิงจีนรายนี้ มีการเข้าเรียนในแบบออนไลน์ โดยมีภาพการเข้าเรียนยืนยันทุกครั้ง
กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมในกรณีไปขอทานในพื้นที่กรุงเทพฯ ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ ของการถือหนังสือเดินทางดังกล่าว โดยทางตำรวจ ตม. กำลังดำเนินการเพิกถอนวีซ่า ก่อนนำตัวเข้าสู่กระบวนการผลักดันกลับประเทศต่อไป
ส่วนที่มีประเด็นข้อสงสัยว่า ขอทานหญิงสาวชาวจีนรายนี้ เดินทางเข้ามา และพัวพันกลุ่มตำรวจ ตม. ที่เอื้อประโยชน์ทุนจีนเทา ที่ถูกดำเนินการไปก่อนหน้านี้นั้น หรือไม่ ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากหญิงจีนรายนี้ได้เข้ามายังประเทศไทยยังไม่ถึงปี ตลอดจนใช้เอกสารการเดินทางอย่างถูกต้องทุกอย่าง