เปิดสถิติตัวเลขประชาชนใช้ "รถไฟฟ้าสายสีชมพู" วันแรก เผย 8 สถานีคนเยอะที่สุด
เปิดสถิติผู้ใช้บริการ "รถไฟฟ้าสายสีชมพู" เส้นทางแคราย-มีนบุรี หลังจากที่มีการเปิดให้ทดลองนั่งฟรี 1 เดือน ระหว่างวันที่ 21 พ.ย. - 17 ธ.ค.2566 เผยสถานีที่พบผู้ใช้บริการสูงสุด
กรมการขนส่งทางราง เปิดสถิติผู้ใช้บริการ "รถไฟฟ้าสายสีชมพู" เส้นทางแคราย-มีนบุรี หลังจากที่มีการเปิดให้ทดลองนั่งฟรี 1 เดือน ระหว่างวันที่ 21 พ.ย. - 17 ธ.ค.2566 ระบุตัวเลขข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย.2566 มีประชาชนทดลองใช้บริการกว่า 9.8 หมื่นคน-เที่ยว ซึ่งเป็นวันแรกที่ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.
ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เผยว่า วันแรกที่เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึงสถานีมีนบุรี (PK30) ฟรีตลอดเส้นทาง รวม 30 สถานี ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 20.00 น. รวมเป็นเวลา 14 ชั่วโมง รวมทั้งให้บริการที่จอดรถฟรีที่อาคารจอดแล้วจร (Park&RIde) บริเวณสถานีมีนบุรี (PK30) มีผู้มาใช้บริการรวมจำนวน 98,262 คนต่อเที่ยว
ขณะที่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาที่ได้เริ่มให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูเฉพาะช่วงเวลา 15.00 - 20.00 น. รวม 5 ชั่วโมง พบมีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 50,910 คนต่อเที่ยว สะสม 2 วันมีผู้ใช้บริการรวม 149,172 คนต่อเที่ยว
บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพู จัดขบวนรถให้บริการสูงสุด 14 ขบวน ให้บริการทุก 10 นาที ตั้งแต่เวลา 06.00 - 20.00 น. รวม 172 เที่ยว รวมขบวนรถเสริม 3 เที่ยว พบว่า ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) มีผู้ใช้บริการมากที่สุดกว่า 17,000 คนต่อเที่ยว ซึ่งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนได้มีการบริหารจัดการผู้โดยสารที่สถานี (Crowed Control) เพื่อลดความหนาแน่นที่ชั้นชานชาลาและในขบวนรถ เนื่องจากเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) โครงการรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท โดยในช่วงทดลองให้บริการผู้โดยสารสายสีชมพูยังคงต้องใช้ทางเข้า-ออก เพื่อออกจากระบบแล้วเดินไปยังทางเข้า-ออกของรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท
ส่วนสถานีที่มีผู้ใช้บริการรองลงมา ได้แก่
- สถานีวงแหวนรามอินทรา (PK25)
- สถานีตลาดมีนบุรี (PK29)
- สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01)
- สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 (PK08)
- สถานีหลักสี่ (PK14)
- สถานีมีนบุรี (PK30)
- สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (PK12)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2566 ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น. ให้บริการทุก 10 นาที ก่อนขยายเวลาให้บริการต่อไป อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางรางได้ประสานการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้ให้บริการรถไฟฟ้สายสีชมพู (NBM) เร่งดำเนินการก่อสร้างทางขึ้น-ลงทุกสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงทางเดินเชื่อมต่อให้แล้วเสร็จก่อนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ต่อไป
ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการระบบราง ประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 พบว่ามีผู้ใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,701,845 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
1.รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 64,229 คนต่อเที่ยว ประกอบด้วย
- ขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ จำนวน 20,356 คนต่อเที่ยว
- ขบวนรถโดยสารเชิงสังคม จำนวน 43,873 คนต่อเที่ยว
2. รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (รวมรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง) จำนวน 1,637,616 คนต่อเที่ยว โดยมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) 78,355 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (ครั้งล่าสุดเมื่อ 21 พ.ย.66 จำนวน 76,960 คน-เที่ยว) เนื่องจากที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เป็นสถานีที่มีทางเดินเชื่อมต่อระหว่างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (PK01) และโครงการรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม ((สายสีม่วง) (PP11)) ประกอบด้วย
- รถไฟฟ้า Airport Rail Link จำนวน 64,229 คนต่อเที่ยว
- รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จำนวน 29,143 คนต่อเที่ยว (รวมรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี จำนวน 269 คนต่อเที่ยว)
- รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) จำนวน 478,749 คนต่อเที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) จำนวน 78,355 คนต่อเที่ยว (นิวไฮ)
- รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิทและสายสีลม จำนวน 841,570 คนต่อเที่ยว
- รถไฟฟ้า สายสีทอง จำนวน 6,000 คนต่อเที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง จำนวน 35,601 คนต่อเที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู จำนวน 98,262 คนต่อเที่ยว
เมื่อเทียบกับวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพิ่มขึ้นจำนวน 95,252 คนต่อเที่ยวหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.18 โดยมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.42 และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.73 ตามลำดับ
กรมการขนส่งทางราง เชื่อมั่นว่า การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู รวมถึงสายสีต่างๆ ที่กำลังจะเปิดให้บริการในอนาคตจะมีส่วนช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัย สร้างความสุขการเดินทางระบบรางให้กับคนไทยอย่างมุ่งมั่นต่อไป