มท. กำชับ ดูแล ปชช. เดินทางท่องเที่ยว พร้อมเฝ้าระวังอุบัตภัย เทศกาลลอยกระทง

มท. กำชับ ดูแล ปชช. เดินทางท่องเที่ยว พร้อมเฝ้าระวังอุบัตภัย เทศกาลลอยกระทง

มท. กำชับทุกจังหวัดอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยประชาชนเดินทางท่องเที่ยว พร้อมเฝ้าระวังอุบัตภัยทางน้ำ ไฟไหม้ในเทศกาลลอยกระทง

วันนี้ (27 พ.ย. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (27 พ.ย. 66) เป็นวันลอยกระทง ที่คาดว่าประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจะมีการเดินทางไปร่วมงานในพื้นที่ซึ่งหน่วยงานรัฐ ภาคประชาชน และเอกชนจัดขึ้นเป็นจำนวนมาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้มีความห่วงใยในเรื่องของความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยว จึงได้กำชับให้ทุกจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการที่กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่งถึงทุกจังหวัด เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติภัยที่อาจสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
 

ทั้งนี้ ขอให้ชุดปฏิบัติการจากการบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานในแต่ละพื้นที่ทั้งราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ประชาชนจิตอาสา พร้อมทั้งสั่งใช้อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) สนับสนุนการการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การรักษาความสงบเรียบร้อย การเฝ้าระวังบริเวณที่ประชาชนหนาแน่น ระวังอุบัติภัยทางน้ำ บริเวณโป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยสาร สถานที่ริมน้ำ ที่ประชาชนใช้ลอยกระทง จุดเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย มีหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ประจำบริเวณสถานที่จัดงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือได้ทันที 
 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  นายอนุทิน ยังได้กำชับเรื่องการเฝ้าระวังอัคคีภัย เนื่องจากจะมีกิจกรรมตามประเพณี ความเชื่อ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเหตุได้ไม่ว่าจะเป็น การจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ยิงปืนขึ้นฟ้า ปล่อยโคมลอย ขอให้มีการจัดหน่วยเคลื่อนเร็วพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัย ที่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อระงับเหตุได้ทันท่วงที  

"ก่อนเทศกาลลอยกระทงจะเริ่มขึ้น ท่าน มท.1 ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงมหาดไทยให้พร้อม เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกับเน้นย้ำเรื่องการการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และเชิญชวนประชาชนร่วมกันดูแลความสะอาดของแหล่งน้ำ เพื่อช่วยกันลดขยะและสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” น.ส.ไตรศุลี กล่าว