'แม่ทัพภาคที่ 3' สั่งทหารไทยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ ชายแดนไทย-เมียนมา
'แม่ทัพภาคที่ 3' สั่งทหารไทยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ตาก หลังชนกลุ่มน้อยถล่ม 'ทหารเมียนมา' หนัก
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การสู้รบระหว่าง 'ทหารเมียนมา' กับฝ่ายต่อต้านที่ประกอบไปด้วย ทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KUN) และกองกำลังปกป้องประชาชน (PDF) ในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง เช่นที่ อ.กอกาเลก จ.กอกาเลก และบ้านปางกาน จ.เมียวดี ซึ่งใกล้กับกองบังคับการยุทธวิธีทหารเมียนมา ห่างจาก จ.เมียวดี ตรงข้ามบ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 10 กิโลเมตร
โดยทั้งสองฝ่ายยังมีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทหารฝ่ายต่อต้านได้เผาและยึดสถานีตำรวจหมู่บ้านปางกาน รวมทั้งปิดเส้นทางระหว่างทางจากชายแดนไทย-เมียนมา ไป จ.ผาอ่าง และ จ.มะละแหม่ง ทำให้ชาวเมียนมาซึ่งเป็นนักธุรกิจ เจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนทั่วไปที่มาจากต่างจังหวัดติดอยู่ในเมืองเมียวดีจำนวนมาก
ขณะที่การขนส่งสินค้าตามแนวชายแดนหยุดชะงักลง นอกจากนี้ยังมีรถยนต์บรรทุกสินค้าติดค้างอยู่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นมา
ด้าน พลโทประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องความขัดแย้งภายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทางกองทัพบกมีนโยบายอยากให้เจรจามีการพูดคุยกันมากกว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย และถ้าหากมีผลกระทบ เช่น มีผู้ลี้ภัยเข้ามา ก็จะมีการดูแลตามหลักมนุษยธรรมตามที่เคยปฏิบัติมา ขณะเดียวกันทางทหารจะมีการป้องกัน เฝ้าระวังเรื่องของการล้ำแดน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความมือจากฝ่ายเมียนมาเป็นอย่างดี
ล่าสุดทหารเมียนมาได้ใช้เครื่องบนรบปฏิบัติการทางอากาศที่เมืองกอกาเลก ทำให้ประชาชนเสียชีวิตกว่า 10 คน และมีบ้านเรือนราษฎรหลังหนึ่งถูกระเบิดที่ทิ้งลงมา ทำให้เจ้าของบ้าน และคนในครอบครัวเสียชีวิตทั้งหมด 5 คน และยังมีพระสงฆ์ 1 รูปเสียชีวิต อย่างไรก็ดีการสู้รบยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนบางหมู่บ้านต้องหลบในหลุมหลบภัยที่ขุดไว้ในบ้าน ไม่สามารถไปหนีไหนได้ เกรงว่าจะเกิดอันตราย
โดย สมจิต รุ่งจำรัสรัศมี จ.ตาก