'ครูชัยยศ' เปิดใจ หลัง ป.ป.ช.ชี้มูล ปลดออกราชการ
เปิดใจ "ครูชัยยศ" หลัง ป.ป.ช. ปลดออกราชการ ปมงบอาหารกลางวัน ชี้ตัดสินเร็ว-ไม่ละเอียด ย้ำให้มองเจตนาเป็นสำคัญ ล่าสุดขายที่ดิน 1.5 ไร่ กว่าแสนบาท เดินหน้าสู้ต่อ พร้อมนำเอกสำคัญยื่นอุทธรณ์
วันนี้ (8 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครูชัยยศ หรือ นายชัยยศ สุขต้อ อายุ 57 ปี อดีตครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3) โรงเรียนยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่ถูกคำสั่งปลดออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีเซ็นต์ตรวจรับงบอาหารกลางวันเด็กที่มีการทุจริต เปิดเผยว่า กรณีที่ ป.ป.ช. แถลงยืนยันว่าตนเองต้องรับผิดในฐานะเป็นกรรมการตรวจรับเนื่องจากต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบก่อนเซ็นต์รับ มองว่าไม่ยุติธรรมและเป็นการตัดสินที่เร็วเกินไปและไม่ละเอียด
ตนเองเข้าใจว่าเป็นเอกสารการตรวจรับรายการอาหาร แต่ยอมรับว่าไม่มีความรู้ในเรื่องเอกสารเหล่านี้ ตัวเองเรียนครูมาก็ไม่ได้มีความรู้และความถนัดเกี่ยวกับเรื่องการเงินหรือพัสดุ แต่เมื่อทางโรงเรียนมีครูน้อย เมื่อมีคำสั่งก็ไม่มีสิทธิฝ่าฝืนอะไรได้ โดยคิดว่าไม่ยาก แค่เซ็นชื่อตรวจรับตามรายการที่ส่งมาให้เท่านั้น
ขณะที่คำสั่งของ สพป.เขต 5 เข้าใจว่าเมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลมาก็มีแค่สองทางเลือกคือไล่ออกหรือปลดออก แต่หากมองเจตนาของตนเองแล้ว แค่ตัดหรือลดขั้นเงินเดือนก็ไม่ควรโดนด้วยซ้ำ เพราะเรื่องนี้ควรต้องมองเจตนาเป็นสำคัญ ส่วนที่ต้องมารับผิดเพราะความไว้เนื่อเชื่อใจครูที่ทำหน้าที่ทำงบประมาณจัดซื้อหรือไม่ ครูชัยยศ บอกว่าไว้ใจทุกคน ไม่เคยระแวงใครและไม่เคยรู้ด้วยว่ามีการทุจริต
ครูชัยยศ ยังเปิดเผยว่า แนวทางการต่อสู้จะใช้หนังสือคำสั่งของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนที่สั่งให้ตนเองทำหน้าที่ในการตรวจรับรายการอาหารและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งหลักฐานอีกส่วนหนึ่งจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และผลงานคุณงามความดีในการทำงานที่ผ่านมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่
และยังใช้งบประมาณส่วนตัว ไม่เคยคิดทุจริตโกงกิน เป็นหลักฐานในการอุทธรณ์และต่อสู้คดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง และไม่คิดว่าสิ่งที่ทำมาตลอดชีวิตราชการด้วยเจตนาดี จะมีผลลัพธ์คือถูกปลดออกจากราชการ หลังจากถูกปลดออกก็มีความเครียด เรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบมากมายทั้งสภาพจิตใตและยังต้องเสียเงินมากมายในการต่อสู้เรียกร้องคืนความยุติธรรม
ล่าสุดได้ขายที่ดินสวนลำไยของที่บ้าน 1.5 ไร่ 150,000 บาท เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช่จ่ายในการเรียกร้องความเป็นธรรม ทั้งตั้งทนายความ ค่าเอกสาร และค่าเดินทาง
สำหรับประเด็นที่มีการร้องเรียนว่าการเกลี่ยงบอาหารทำให้อาหารเด็กเล็กลดลงและด้อยคุณภาพ ยืนยันว่าที่ผ่านมาทางโรงเรียนจัดอาหารให้กับเด็กเล็กและเด็กมัธยมได้กินอิ่มและเพียงพอ เด็กบอกว่าอาหารดีกว่าที่บ้านที่บางทีต้องกินข้าวกับเกลือกับน้ำปลา
โดยในเรื่องอาหารกลางวัน ในโรงเรียนขยายโอกาสทาง สพฐ.ไม่ได้จัดสรรงบอาหารกลางวันให้เด็กมัธยม ในทางปฏิบัติก็ต้องมีการแบ่งปันและเป็นการบริหารของแต่ละโรงเรียน
ขณะที่เมื่อวานนี้กลุ่มเพื่อนครูและศิษย์เก่าได้เดินทางนำเงินที่ระดมทุนกันมามอบให้ครูชัยยศเป็นเงิน 60,000 บาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ครูชัยยศ ไม่รับเงินจำนวนดังกล่าวไว้