รวบลูกชายเจ้าของสวนส้ม เทรดหุ้น-บิตคอยน์ขาดทุน ชิงทรัพย์ร้านทอง
รวบลูกชายเจ้าของสวนส้ม ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง จ.เชียงใหม่ ได้ทองไปกว่า 80 เส้น อ้างเทรดหุ้น-บิตคอยน์ขาดทุน ตำรวจแกะรอยเจอ
จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุ ชิงทรัพย์ร้านทอง ที่ร้านห้างทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัสฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทองไปกว่า 80 เส้น แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อ 18.50 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ แกะรอยติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุจนทราบว่าเป็นใคร จนทราบตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายธัชเศรษฐ์ อายุ 42 ปี จึงได้ขอหมายค้น จำนวน 3 จุด ในพื้นที่ อ.ฝาง และตัวเมืองเชียงใหม่
ผลการตรวจค้น พบรถจักรยานยนต์ และอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุ เงินสดที่ได้จากการขายทอง จำนวน 1.4 ล้านบาทเศษ ต่อมา ทางพนักงานสอบสวน สภ.ฝาง ได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลฝางในข้อหา ชิงทรัพย์ โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป และข้อหาพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตาม จับกุมตัวของนายธัชเศรษฐ์ ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยจัดการตรวจค้นภายในบ้านและรถยนต์ป้ายแดงของนายธัชเศรษฐ์ พบเงินสดซุกซ่อนอยู่ในรถจำนวน 1.4 ล้าน ในเบื้องต้น นายธัชเศรษฐ์ ให้การรับสารภาพ และก่อเหตุเนื่องจากต้องการเงินไปลงทุนในธุรกิจส่วนตัว
ต่อมา พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ธนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จากการซักถามผู้ต้องหา ให้การว่าต้องการนำเงินมาเป็นเงินทุนสำรองเป็นเงินก้อนเอาไว้ ในการลงทุนสกุลเงินออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้น หรือคริปโต ส่วนหลังจากก่อเหตุก็ได้ นำทองให้ได้ไปขายให้กับคนเมียนมาที่รู้จัก ในเขตพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยตกลงขายของที่ได้มาทั้งหมดประมาณ 80 เส้นในราคา 4 ล้านบาท ได้เงินมาแล้วครึ่งนึงเหลืออีกครึ่งนึง
พล.ต.ต.ธวัชชัย เผยว่า หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการระดมชุดสืบสวนทำการสืบสวนในทุกมิติทั้งในด้านเทคโนโลยี และการไล่ติดตามกล้องวงจรปิดจนกระทั่งสามารถแกะรอยเส้นทางของคนร้ายตั้งแต่ก่อเหตุจนไปถึงนำทองไปขายในเขตพื้นที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
หลังจากการจับกุมก็ได้ใช้เทคนิคการซักถามจนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เป็นคนก่อเหตุและนำทองไปขายโดยสาเหตุก็เพียงต้องการเงินก้อนนำมาลงทุนออนไลน์ ซึ่งผู้ต้องหานั้นจากการตรวจสอบประวัติทางครอบครัวก็ไม่มีความลำบากในเรื่องเงินเลย พบว่าเป็นลูกชายของเจ้าของสวนส้มในพื้นที่อำเภอฝางอีกด้วย
ส่วนที่ผู้ต้องหานำทองไปขายให้กับคนพม่าก็เคยรู้จักคุ้นเคยกันสมัยที่เคยมีภรรยาอยู่ฝั่งเมียนมา ทำให้เดินทางเข้าก็ออกอยู่บ่อยครั้ง ถึงตอนนี้ เงินสดที่ยึดได้ผู้ต้องหาก็ยินดีที่จะนำคืนให้กับร้านทอง ส่วนทองคำที่ถูกขายไปนั้น เนื่องจากถูกขายข้ามประเทศไปการติดตามค่อนข้างที่จะยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวนายธัชเศรษฐ์ ส่งตัวไปให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป