กองทัพกะเหรี่ยงคะยา KA ส่งโดรน เตือนทหารเมียนมา ให้ยอมแพ้ มอบตัวและวางอาวุธ
กองทัพกะเหรี่ยงคะยา KA ส่งโดรน ปล่อยหนังสือ เตือนทหารเมียนมา อยู่ติดชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้มอบตัวและวางอาวุธ หากไม่ยินยอมจะโจมตีอย่างหนัก ขณะที่ทหารเมียนมา บางส่วนเริ่มพากันรวนเร และเสียขวัญ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีการสู้รบในเร็วๆ นี้
วันนี้ (16 ธันวาคม 2566) แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงของ กองกำลังกะเหรี่ยงคะยา, กะยา, กะเหรี่ยงแดง Karenni Army , KA เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ในห้วง 3 วันที่ผ่านมา ทางกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ได้มีการส่งโดรนไปทิ้งหนังสือ ที่บรรจุในขวดน้ำพลาสติก ให้แก่ทหารเมียนมาที่ประจำตามฐานที่มั่นต่าง ๆ ตรงข้าม ช่องทางบ้านดอยแสง ต.ปางหมู และ บ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้แก่
ฐานดอว์ตะแค , ฐานหนี่หล่ากง , ฐานแม่ลายู , ฐานดอยไม้ตีง , ฐานผาห่มน้ำ , ฐานห้วยอื้น และ ฐานเนิน1441
โดยในจดหมายดังกล่าว ระบุว่า จดหมายแจ้งเตือนจาก กองทัพกะเหรี่ยงคะยา/คาเรนนี KA เพื่อเป็นการปลดปล่อยกำลังพล ทหารเมียนมา ที่อยู่ภายใต้การนำของ พล.อ.อาวุโส มินอ่องไหล่ (ผบ.สส.ทมม. และนายรัฐมนตรี) ผู้ที่บ้าอำนาจ
และเพื่อมิให้ผู้ที่บ้าอำนาจเพียงคนเดียวมาชักจูงได้ จากปัญหาการสู้รบที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าเป็นการร่วมมือของประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสันติภาพ ขณะเดียวกันก็มีกำลังพล ทหารเมียนมาเสียชีวิต จากการสู้รบเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในพื้นที่รัฐฉานเหนือนั้นสามารถพูดได้ว่า ขณะนี้กลุ่มพันธมิตร 3 ฝ่าย (กกล.MNDAA/TNLA/AA) ได้เข้ายึดครองได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพวกเราชาว กะเหรี่ยงคะยา กำลังจะขยายพื้นที่การสู้รบไปยังพื้นที่ รัฐชิน,กะฉิ่น,สะกาย ต่อไป ในการสู้รบเพียงเท่านี้ก็ทำให้กำลังพลของพวกท่านสูญเสียนับไม่ถ้วน
และยังมีบางส่วนที่เข้ามามอบตัวเพื่อวางอาวุธอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้จะยังคงมีเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้กองทัพ กะเหรี่ยงคะยา ก็สามารถเข้ายึดพื้นที่ใน จ.ลอยก่อ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน แต่ผู้นำของท่านกลับมองไม่เห็นและคอยใช้คำสั่งบีบบังคับพวกท่านตลอดมา
อีกทั้งประชาชนทั้งประเทศก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผู้นำของท่าน ที่ส่งพวกท่านมาพบกับจุดจบของชีวิตเช่นนี้ จึงเป็นสาเหตุให้ประชาชนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้แบบไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกท่านจะยอมตายเพื่อ พล.อ.อาวุโส มินอ่องไหล่ ผู้บ้าอำนาจเพียงคนเดียว หรือจะเข้าร่วมกับประชาชนเพื่อร่วมกันต่อสู้
ถึงยังอย่างไรพวกเรา กองทัพกะเหรี่ยงคะยา ก็ไม่มีความคิดที่จะอยากเข่นฆ่าพวกท่านอยู่แล้ว แต่หากพวกท่านยังคงดื้อรั้นและยืนยันว่าจะสู้รบต่อไป พวกเรา ก็จำเป็นที่จะต้องทำในสิ่งที่สมควรทำเช่นกัน โดยการบีบให้กองทัพถอนกำลังออกไปจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
หรือยอมมอบตัวและวางอาวุธ กับ กองทัพกะเหรี่ยงคะยา ทันที จึงแจ้งเตือนมาเพื่อทราบ ทั้งนี้หากพวกท่านไม่ยอมถอนกำลังออกไปก็จะต้องพบกับการถูก กองทัพกะเหรี่ยงคะยา จะเข้าปิดล้อมหน่วยที่ตั้งของท่านอย่างแน่นอน
โดยในขณะนี้พวกเรา ได้เข้าวางกำลังอยู่ในพื้นที่ อ.ชาดอว์ จ.ลอยก่อ ไว้หมดแล้ว และอยากจะบอกว่าพวกเราพร้อมที่จะไปเยือนของพวกท่าน อย่างดีที่สุด
ดังนั้นขอแจ้งเตือนให้พวกท่านยอมจำนนและเข้ามอบตัวกับเรา ซึ่งเราเชื่อว่าครอบครัว,ลูกเมีย,พ่อแม่ ของพวกท่านรอการกลับมาของพวกท่านแบบมีชีวิต หากพวกท่านจะยอมจำนนขอให้ท่านติดตั้งธงขาวไว้บนอาคารสำนักงานของท่านให้เห็นเด่นชัดด้วย พวกท่านยังมีเวลาในการตัดสินใจ
สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดลอยก่อว์ แหล่งข่าวยอมรับว่า เป็นเรื่องยุ่งยากในการรบ เนื่องจากทหารเมียนมา ได้อาศัยแฝงตัวอาศัยในบ้านเรือนของประชาชน และจับประชาชนเป็นตัวประกัน และคอยยิงรบกวนกองกำลังผสมกะเหรี่ยงคะยาที่กำลังพยายามกวาดล้างฝ่ายตรงข้าม
โดยล่าสุดทางกองกำลังผสม ต้องส่งทหารเข้าไปเคลียร์บ้านเรือนราษฎรทุกหลังที่คาดว่ามีทหารเมียนมาอาศัยอยู่
ส่วนทหารเมียนมาที่อาศัยหลบซ่อนตัวในเรือนจำเมืองลอยก่อว์ และ ที่ทำการรัฐบาล ยังคงถูกปิดล้อม โดยทางฝ่ายกองกำลังผสม ได้ปิดล้อมทางเข้าออกและตัดน้ำรวมไปถึงเสบียงอาหารที่จะถูกส่งเข้าไปให้ทหารเมียนมา คาดว่า อีกไม่นานทหารเมียนมาจะต้องยอมวางอาวุธอย่างแน่นอน
ในส่วนของ กองกำลัง KNDF ล่าสุดได้มีการฝึกทหารรุ่นใหม่ขึ้นมาอีก รวมกว่า 100 นาย ซึ่งได้รับการฝึกอบรมการรบขั้นพื้นฐาน การซุ่มโจมตี การลาดตระเวน การใช้ระเบิดชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงการวางกับระเบิดเพื่อสกัดกั้นฝ่ายตรงข้าม ในการล่าถอยออกจากพื้นที่คับขัน
โดยทุกนายที่จบการฝึกอบรม ได้ถูกส่งไปยัง เมืองลอยก่อว์ เพื่อเข้าร่วมกับกองกำลังผสมที่อยู่ระหว่างการกวาดล้างทหารเมียนมาในพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น
ล่าสุดทางกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ได้ขุดพบอาวุธทหารเมียนมา ใกล้ชายแดนไทยด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่หนีออกจากฐานไปแล้ว พบอาวุธจำนวนมาก อาทิจรวดอาร์พีจี และกระสุนปืนเล็กยาว
โดยการค้นพบดังกล่าว มาจากการเข้าไปตรวจสอบฐานที่มั่นของทหารเมียนมา ที่ถูกยึดมาก่อนหน้านี้ จึงพบอาวุธดังกล่าว ซึ่งทางกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา กำลังจะทำการหวนกลับไปตรวจค้นฐานต่าง ๆ ของทหารเมียนมาที่ยึดได้ คาดว่าจะมีคลังอาวุธหลงเหลืออีกเป็นจำนวนมาก