ผบ.ตร. สอบมือยิง ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด ขุดรากถอนโคน ยึดเป็นโมเดลป้องกัน นร. ตีกัน

วันนี้ (20 ธ.ค. 66) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังร่วมสอบปากคำ นายอนาวิน หรือ อ้ำ มือยิง "ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด"  และนายกฤติ หรือ ชิว คนพาหนี  ว่าเบื้องต้น นายอนาวิน มือยิงให้การรับสารภาพ เป็นคนลงมือยิง ซึ่งในการสอบปากคำ ได้บอกกับผู้ต้องหาแล้วว่าคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามพยานหลักฐาน ไม่ได้มีการหว่านแห และจับกุม 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันแรกตนได้บอกแล้วว่า เป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดเล็ก มีการช่วยเหลือคดีความ จัดหารถ อุปกรณ์ ไม่ได้มองว่านี่คือนักศึกษาแล้ว และคดีนี้จะเป็นโมเดล ในการป้องกันเหตุที่จะเกิดกับสถาบันอื่นอีก และได้สั่งการทีมสืบสวนนครบาลแล้ว พร้อมชื่นชม ทำงานแบบมืออาชีพ ขอให้ประชาชนไว้วางใจทีมงาน เราทำตามพยานหลักฐานไม่ได้ตั้งธงและวิ่งเข้าหา 

ผบ.ตร. ยังได้เตือนนักศึกษาที่เกาะกลุ่มในลักษณะนี้ ว่าเวลาโดนคดี ไม่มีรุ่นพี่ที่ไหนมาช่วยและคนที่เสียใจที่สุด คือ พ่อแม่  

 

ในส่วนของแรงจูงใจในการก่อเหตุนั้น ผบ.ตร.ระบุว่า เป็นเรื่องสถาบัน เรื่องศักดิ์ศรี โลกเสมือนจริง สร้างเรื่องราวขึ้นมาให้รู้สึกเคียดแค้น สร้างวัฒนธรรม เวลาจะขึ้นปี 2 ต้องมีการรับน้อง ต้องฆ่ากัน เหตุการณ์นี้ไม่มีความขัดแย้งส่วนตัว ส่วนกรณีกลุ่มผู้ต้องหาโพสต์ปืนและข่มขู่ครอบครัวเหยื่อ เราจะดำเนินการต่อ ไม่ได้จบแค่นี้ ตอนนี้สามารถจับกุมได้ 24 คนจากทั้งหมดที่ออกหมายจับ 26 คน ที่หลบหนีกำลังเร่งติดตามตัว พร้อมสั่งการ ไม่ใช่เฉพาะสถาบันนี้เท่านั้นแต่ต้องไปดูคดีเก่าของคู่กรณีด้วย "เราจะต้องทำลายจอมปลวก ไม่ใช่แค่ทำลายปลวกที่บินออกมาก่อความเดือดร้อนรำคาญและก่อเหตุ เราจะทำลายจอมปลวกเลย" 

ทั้งนี้ นายอนาวิน กำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 2 เป็นธรรมเนียมที่ต้องรับน้อง ไม่มีตราปั้ม ส่วนนายเลาะ ซึ่งเป็นรุ่นพี่และยังศึกษาอยู่  ตำรวจกำลังไล่ล่านายเลาะ และอีกคนที่ยังหลบหนี 

ส่วนที่สถาบันออกมาบอกว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาแล้วนั้น ก็มีทั้งเรียนอยู่ จบแล้ว และเรียนอยู่แต่ไม่จบสักที มันเป็นเครือข่าย และสิ่งที่ตำรวจทำ คือสิ่งที่ยืนยันชัดเจนว่าไม่ใช่อย่างที่เค้าพูด ยังมีนักศึกษาที่คงสภาพนักศึกษาและมาก่อเหตุอยู่ ซึ่งตำรวจต้องศึกษา แผนประทุษกรรมของคนร้าย เพื่อป้องกันระยะยาว ปัญหาแบบนี้มีมานานแล้ว แสดงว่าเราแก้ปัญหาไม่ถูกจุดหรือไม่ ทลายเครือข่ายแล้วแต่ยังมีวัฒนธรรมแบบนี้อยู่ สถาบันอยู่คู่กันต้องย้ายออกไปหรือไม่ ไม่ใช่อยู่ในที่ชุมชนหรือดาวทาวน์แบบนี้ ประชาชนผู้บริสุทธิ์จะมีความปลอดภัยตรงไหน ต้องทำหลายหน่วยงาน ย้ำกำลังยกระบบสืบสวนคดีสำคัญ "ไม่ใช่ทำแค่ลูบหน้าปะจมูก"

ส่วนที่ลักษณะการก่อเหตุดูเหมือนนายอนาวิน  ถืออาวุธปืนอย่างเก้ๆกังๆ นั้น  ผบ.ตร.กล่าวว่า คือเด็ก ดูจากสภาพแล้วเป็นคนหัวอ่อน เลือกคนทำที่หัวอ่อน มีปัญหาครอบครัว ซึ่งนายอนาวินก็มี ตนพยายามคุยกับเขาและเข้าใจในตัวเขา

ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมถึง "จบที่รุ่นเรา" ว่า เพราะเราไม่เคยทำในลักษณะขบวนการที่เราขุดรากถอนโคน ทุกคนคาดหวังกับตำรวจ แต่มีหลายองค์กรเกี่ยวข้องที่กำกับสถาบัน เวลามีเหตุตำรวจบังคับใช้กฎหมาย ถ้าจะให้ยั่งยืนหลายหน่วยต้องช่วยกัน

ทางเขามีโครงการที่จะย้ายหลายครั้งมาก เราจะยอมให้เขากดดันและผู้บริสุทธิ์จะต้องมาตายแบบนี้ถามว่ายุติธรรมหรือไม่ บางคนเป็นหัวหน้าครอบครัว ลองไปถามคนที่สูญเสียบ้าง ตำรวจพร้อมที่จะทำ ถามไม่เริ่มทำลักษณะแบบนี้ในการทำลายเครือข่ายก็จะเป็นแบบนี้ไปอีก ยอมรับการทำงานของตำรวจเป็นเพียงการทำงานแบบปลายน้ำ 

นอกจากนี้ แม่ของน้องหยอด ได้นำรูปลูกชาย เข้ามาขอบคุณเป็นกำลังใจให้ตำรวจ พร้อมสวมกอดผบ.ตร. บอกว่า ไม่มีอะไรให้ ซึ่งเชื่อว่าลูกชายจะดีใจที่สุดถึงที่สุดได้รับความยุติธรรมแล้วแม่ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้