เมาแล้วขับ ซิ่งกระบะปาดหน้าเก๋ง พุ่งชนนักปั่นจักรยาน ดับคาที่ 1 สาหัสอีก 1

กรณี ซิ่งกระบะปาดหน้าเก๋ง รถเสียหลัก พุ่งชนนักปั่นจักรยาน ดับคาที่ 1 สาหัสอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนรถจักรยานปั่น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เย็นวานนี้ (20 ธ.ค.) ที่เกิดเหตุภายในหมู่บ้าน เอโทล มัลดีฟบีช ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลบางพลี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณช่องทางซ้ายถนนเมนหลักของหมู่บ้าน พบนายสมนึก อาริยะตระกูลดี อายุ 48 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานปั่น นอนอยู่กลางถนน มีอาการบาดเจ็บที่บริเวณแผ่นหลัง เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงรีบให้การช่วยเหลือ พร้อมกับปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่ง โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1

ห่างออกไปไม่ไกลพบ นายคาประสงค์ สมหมั่น อายุ 64 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานปั่น นอนหมดสติอยู่กับพื้น แขนขวาท่อนบนหัก เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือด้วยการปั้มหัวใจ ก่อนจะเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลบางพลี แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัส จึงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ใกล้กันเจ้าหน้าที่ยังพบ รถกระบะ ยี่ห้อนิสัน รุ่นนาวารา สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 6-กบ-7145-กรุงเทพ จอดอยู่ในสภาพด้านหน้ารถ และด้านข้างรถ พังเสียหาย นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานปั่น จำนวน 2 คัน ล้มอยู่ข้างฟุตบาท สภาพพังเสียหายยับเยิน นอกจากนี้ยังพบว่า กล้องติดรถของชาวบ้าน สามารถบักทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ โดยกล้องตัวแรกคือ กล้องท้ายรถ แสดงให้เห็นว่า ผู้ขับขี่รถกระบะพยายามขับจี้ท้ายรถคันที่มีกล้อง มาด้วยความเร็ว ก่อนที่จะหักแซงซ้ายออกไปด้วยความเร็ว

จากนั้นกล้องหน้ารถยังสามารถจับภาพรถกระบะขับแซงรถเก๋งคันที่มีกล้องขึ้นไปด้วยความเร็ว ก่อนจะเสียหลักชนเกาะกลางถนน และแฉลบไปทางซ้าย ไปชนกับคนปั่นจักรยาน ทั้ง 2 คัน ขณะที่กล้องวงจรปิดของหมู่บ้าน ยังสามารถจับภาพนาทีรถกระบะ พุ่งชนรถจักรยานปั่นจนลอยกระเด็น เสียงเบรกดังลั่นหมู่บ้าน หลังเกิดเหตุผู้ขับขี่ลงมาดูเหตุการณ์พร้อมกับชาวบ้านที่ออกมาดูด้วยความตกใจ

 จากการสอบถาม นายตี๋ อายุ 35 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การสอดคล้องกับกล้องหน้ารถ ว่า รถกระบะกำลังจะเข้าหมู่บ้านโดยขับมาจากทางตลาดป๋าเดช ส่วนรถเก๋งขับเข้ามาในหมู่บ้านก่อน รถกระบะก็ขับจี้ตูดรถเก๋งมาติดๆ พอมาถึงก่อนที่เกิดเหตุรถกระบะก็ขับแซงแล้วปาดหน้ารถเก๋ง จนเสียหลักไปชนรถจักรยานปั่นถึง 2 คัน

ทางด้านนายพัลลภ อายุ 42 ปี คนขับรถกระบะ อ้างว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ปั่นจักรยานตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทัน จึงทำให้รถพุ่งชนดังกล่าว โดยขณะเกิดเหตุตนเองขับรถมาไม่เร็ว ขับมาแค่ 40 แต่ยอมรับว่า ได้ดื่มสุราที่ร้านหน้าหมู่บ้านมานิดหน่อย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญพยานผู้เห็นเหตุการณ์และคนขับรถยนต์กระบะไปสอบสวนเพิ่มเติม และจะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์คนขับรถยนต์กระบะ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย