คลื่นแรง! ซัดเรือล่มกลางอ่าวพัทยา นทท.รัสเซียลอยคอกลางทะเลเกือบ 30 ชีวิต
คลื่นลมแรง! ซัดเรือล่มกลางอ่าวพัทยา นักท่องเที่ยวรัสเซียลอยคอกลางทะเลเกือบ 30 ชีวิต เคราะห์ดีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือไว้ได้ทัน
เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ 23 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา กรมเจ้าท่า และตำรวจท่องเที่ยว ได้ส่งเรือกู้ชีพออกไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ว่ายน้ำลอยคอกลางทะเลพัทยา ห่างจากชายฝั่งประมาณ 3 ไมล์ทะเล ใกล้เคียงกับหาดนวล เกาะล้านพัทยา หลังเจอคลื่นซัดแล้วเกิดอุบัติเหตุเรือล่มอย่างกะทันหัน
เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำลูกเรือนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ชาย-หญิงจำนวน 27 ชีวิต รวมถึงนายท้ายเรือและกัปตัน อีกจำนวน 3 ราย รวมกันทั้งหมด 30 ชีวิต ขึ้นฝั่งบริเวณศูนย์เตือนภัยทางทะเลและชายฝั่ง เขตจอมเทียน ได้อย่างปลอดภัย โดยส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อระหว่างเรือล่ม จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลรวมทั้ง 5 ราย เพื่อไปตรวจอาการและรักษาตามลำดับ ซึ่งลูกเรือยังคงอยู่ในอาการตื่นตระหนกและตกใจกับเหตุการณ์ที่กิดขึ้น
สอบถาม นายสมโภช อายุ 56 ปี นายท้ายเรือ เล่าว่า ช่วงเช้าได้นำนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียประมาณ 30 คน ขึ้นเรือแคททามาราน จากซอย 4 ของชายหาดพระตำหนัก เพื่อไปจอดเทียบบริเวณหน้าหาดนวล เกาะล้าน เพื่อปาร์ตี้และเล่นกิจกรรมทางน้ำ กระทั่งช่วงเย็นได้พาลูกเรือกลับขึ้นฝั่งเพื่อเข้าพักที่โรงแรม แต่พอขับออกมาได้สักระยะ เรือขวางลำแล้วเกิดปะทะคลื่นลมทะเลอย่างแรง จึงทำให้ลูกอนอุปกรณ์ที่กับติดเรือที่ฝั่งข้างขวาเกิดชำรุด และน้ำทะเลทะลักเข้าตัวเรือ ทำให้ตัวเรือเกิดเอียงข้าง แล้วพาร่างลูกเรือกระเด็นตกน้ำลอยคออยู่กลางทะเล
เบื้องต้นพบว่าตัวเรือลำดังกล่าวเป็นเรือนำเที่ยวประเภทแคททามาราน ชื่อซีบีช บรรจุผู้โดยสารได้ประมาณ 40 คน ยังคงจมอยู่กลางทะเลไม่สามารถกู้ขึ้นฝั่งได้
ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา กรมเจ้าท่าได้ชักธงแดงครึ่งเสา เตือนคนเรือห้ามนำเรือเล็กออกจากฝั่งพัทยา หากฝ่าฝืนนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ จนกระทั่งมีเรือลำดังกล่าวขับเข้าฝั่ง แต่สุดท้ายเจอคลื่นซัดจึงทำให้เรือล่มดังกล่าว
อย่างไรก็ตามตำรวจได้เชิญตัวนายท้ายไปสอบปากคำ รวมถึงเจ้าของเรือลำดังกล่าวไปให้ปากคำและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบ และอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ประสบภัย พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าโชคดีที่ไม่มีใครถึงแก่ชีวิต ต้องขอประชาสัมพันธ์กับกลุ่มเรือท่องเที่ยวด้วยว่าในช่วงเวลาดังกล่าว กรมเจ้าท่าได้ชักธงแดงครึ่งเสา แสดงว่าห้ามนำเรือขนาดเล็กออกจากชายฝั่งเป็นอันขาด จึงขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการเข้มงวดกับคำเตือนเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว