'สารเคมีรั่วไหล' กรมควบคุมมลพิษ ยันไม่พบสารเคมีตกค้างในอากาศ-ท่อระบายน้ำ

'สารเคมีรั่วไหล' กรมควบคุมมลพิษ ยันไม่พบสารเคมีตกค้างในอากาศ-ท่อระบายน้ำ

กรมควบคุมมลพิษ ยืนยันไม่พบสารเคมีตกค้างในอากาศ-ท่อระบายน้ำ กรณีถังสารเคมีรั่วไหลที่สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ

จากกรณี รถกระบะทำถังสารเคมี 'อลูมิเนียมฟอสไฟด์' หรือ ฟอสฟีน ซึ่งเป็นสารใช้ในการกำจัดแมลงทางการเกษตร ถือว่ามีความเป็นพิษ รั่วไหลจนเกิดไฟลุก และเกิดควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณซอยพรสว่าง 7 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา

 

 

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (5 มกราคม 2567) เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ได้นำเครื่องมือลงพื้นที่เพื่อสำรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อตรวจวัดว่ามีสารเคมีตกค้างหรือไม่ โดยจุดหลักคือบริเวณท่อระบายน้ำ (จุดเกิดเหตุ) ซึ่งผลจากการสำรวจตามท่อระบายน้ำก็ไม่พบว่ามีสารเคมีตกค้าง

ขณะที่บ้านประชาชนที่อยู่ตรงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สอบถามและเข้าไปใช้เครื่องวัดสารพิษ ตรวจโดยรอบ เพื่อความปลอดภัย ซึ่งผลไม่มีสารเคมีตกค้างในอากาศ และตามท่อระบายน้ำ

นายสุนทร อุปมาณ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ กรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการตรวจพื้นที่โดยรอบ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากเป็นเขตชุมชน หากมีสารเคมีตกค้างจะส่งผลกระทบหลายส่วน โดยเฉพาะสุขภาพ ระบบทางเดินหายใจ แต่เบื้องต้นจุดหลักๆคือที่เกิดเหตุ สำรวจแล้วไม่พบสารตกค้าง นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลสำโรงเหนือร่วมตรวจสอบด้วย เนื่องจากสารเคมีดังกล่าวติดไฟได้ง่ายเมื่อโดนน้ำ

 

 

ทางด้านชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าว เผยว่า เมื่อคืนได้รับผลกระทบเรื่องกลิ่นและตกใจกลัว ตนไม่ได้ยินเสียงประชาสัมพันธ์เพราะว่าอยู่ในบ้าน จนข้างบ้านโทรมาบอกก็เลยหลบอยู่ในบ้าน ปิดหน้าต่างหมด แต่ได้กลิ่นเพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ควันพุ่งขึ้นมา ตอนนี้กลิ่นได้หายไปแล้ว แต่เมื่อเช้ามีเศษขาวๆเต็มหน้าบ้าน จึงเอาน้ำฉีด ล้างไปรอบนึง ก็อยากจะขอให้มีมาตรการป้องกันรถขนสารพิษที่ดีกว่านี้ เพราะไม่น่าจะมาวิ่งในเขตชุมชนแบบนี้

ดร.ลือกฤต เพชรบดี นายกเทศมนตรีตำบลสำโรงเหนือ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ดำเนินการเคลียร์สารเคมีเรียบร้อยแล้ว เราก็ได้มีการล้างพื้นเพื่อที่ว่าฝุ่นละอองจะได้หมดไป เพราะเป็นแค่ฝุ่นละอองเฉยๆ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆทางเคมีแล้ว ซึ่งเช้าวันนี้ก็จะมีกรมควบคุมมลพิษ อนามัยจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูพื้นที่และตรวจวัดค่าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสร้างความปลอดภัยและให้คำแนะนำกับประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับสารเคมีตรงนั้น ซึ่งยังไม่มีผู้ใดมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจหรือทางผิวหนัง โดยเมื่อวานถือว่าโชคดีที่สารเคมีนั้นไม่มาก อยู่ในถังไม่ถึง 200 ลิตร และเคลียร์พื้นที่ภายใน 2 ชั่วโมงก็เรียบร้อยหมด และอีก 1 ชั่วโมงเราก็ดำเนินการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนทำความสะอาด

ด้าน พ.ต.ต.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อคืน ตอนนี้เราสอบคนขับรถ หัวหน้าเขา และก็เจ้าของบริษัทที่เป็นนายจ้าง ถึงที่ไปที่มาของสารที่ก่อให้เกิดควันว่าไปดำเนินการที่ไหน รับมาอย่างไร ขนส่งอย่างไร ถ้าพบเจอความผิดก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้เขาทราบ เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา 'กระทำให้เกิดเพลิงแก่วัตถุใดๆ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน'