‘คุณลักษณะผู้นำ’ ที่ต้องเพิ่มในปี 2567
ปี 2567 นี้การทำธุรกิจยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น คำถามสำคัญคือ นอกเหนือจากคุณลักษณะพื้นฐานของการเป็นผู้นำที่ดีแล้ว ผู้นำควรจะมีคุณลักษณะใดเพิ่มเติม เพื่อช่วยนำพาองค์กรให้ก้าวข้ามปี 2567 ได้อย่างสวยงาม
ใน 5-6 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นอกเหนือความคาดหมาย หรืออาจจะคาดไว้แล้วแต่ไม่คิดว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโควิดและรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป, ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์, AI ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน, เศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว หรือภาวะโลกร้อนที่รุนแรงมากขึ้น ฯลฯ
ดังนั้น ย่อมยากที่จะบอกได้ว่าจากนี้ไปจะมีเหตุการณ์ใดที่จะเกิดและอยู่นอกเหนือความคาดหมายอีก เพื่อให้เตรียมพร้อมรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น ผู้ที่จะเป็นผู้นำได้ควรจะมีคุณลักษณะต่างๆ ใดเพิ่มเติมบ้าง
1.การปรับตัวและยืดหยุ่น - ไม่ใช่เพียงแค่ตัวผู้นำที่จะต้องมีความสามารถในการปรับตัวเองให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง และ ยืดหยุ่นเมื่อเผชิญกับสิ่งที่เหนือความคาดหมายเท่านั้น แต่ผู้นำจะต้องสามารถสร้างวัฒนธรรมในการทำงานเพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวและยืดหยุ่นได้ด้วย
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรหรือแนวทางการทำงาน ที่ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และมีความยืดหยุ่นต่อเหตุการณ์ต่างๆ มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กรเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นแนวปฏิบัติของคนทั้งองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับโลกที่มีแต่เรื่องที่เหนือคาดหมายเช่นในปัจจุบัน
2.การมองไปข้างหน้า - ถึงแม้โลกธุรกิจจะมีแต่เรื่องไม่แน่นอน แต่ผู้นำก็ไม่สามารถที่จะตั้งรับและรอการเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างเดียวได้ ผู้นำที่ดีจะต้องสามารถรวบรวม กลั่นกรอง และประมวลจากข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่อย่างมากมาย เพื่อมาจัดระบบความคิดให้ชัดเจน และมีสร้างภาพของสิ่งที่องค์กรจะมุ่งไปในอนาคตได้
ประเด็นสำคัญของคุณลักษณะนี้มีอยู่สามเรื่อง
- เนื่องจากปัจจุบันข้อมูลมีอยู่อย่างมากมายและเข้ามาตลอดเวลา ผู้นำจะต้องรู้จักที่จะกลั่นกรองและประมวลข้อมูลที่เป็นประโยชน์
- จากข้อมูลเหล่านั้น ผู้นำจะต้องสามารถจัดระบบความคิดของตนเองและทีมงานให้ชัดเจน โดยการมองเห็นโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากข้อมูลที่มีอยู่อย่างมากมาย
- เมื่อระบบความคิดชัดเจนแล้ว ก็มีภาพของสิ่งที่องค์กรจะมุ่งสู่ในอนาคต และสามารถตัดสินใจเลือกว่าจะทำสิ่งใดต่อไป
3.ก้าวทันเทคโนโลยี - ผู้นำจะต้องคุ้นเคยกับเทคโนโลยีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์และผลกระทบของเทคโนโลยี ผู้นำในยุคใหม่ไม่สามารถเพียงแค่พูดถึงเทคโนโลยี โดยไม่ได้รู้จักและคุ้นเคยอย่างแท้จริง ถ้าผู้นำเริ่มคิดจะนำ AI มาใช้ ตัวผู้นำเองก็ควรจะต้องทำความรู้จักและคุ้นเคยกับ AI เอง เช่น เริ่มจากการใช้ Gen AI ในชีวิตประจำวันก่อน
4.คิดเรื่อง Purpose เป็นหลัก - คำถามสำคัญที่พบเจอในคนรุ่นใหม่คือ “เพื่ออะไรหรือเพื่อใคร” คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถไม่ได้อยากจะทำงานในองค์กรที่ทำทุกอย่าง “เพื่อกำไรสูงสุดและเพื่อผลตอบแทนสูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น” เหมือนในอดีต แต่สิ่งที่คนรุ่นใหม่แสวงหาจะเป็น “เพื่อโลกใบนี้” หรือ “เพื่อผู้ด้อยโอกาส” หรือ “เพื่อลูกค้า” มากขึ้น
ดังนั้น ผู้นำเองจะต้องกลับมาทบทวน Purpose การดำรงอยู่และการทำงานขององค์กร ว่าทำไป “เพื่ออะไรหรือเพื่อใคร” เพื่อที่จะดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงาน
5.หาจุดสมดุลระหว่างสิ่งที่แตกต่าง - จากสิ่งใหม่ๆ ที่จะต้อง แต่ขณะเดียวกันแนวทางในการทำงานเดิมๆ ก็มีอยู่ ผู้นำจะต้องสามารถหาจุดสมดุลระหว่างสิ่งที่แตกต่างกันสองสิ่งได้ เช่น สมดุลระหว่างการปรับตัวตลอดเวลา กับการมองภาพไปข้างหน้าในระยะยาว หรือสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับประสิทธิภาพ หรือสมดุลระหว่าง AI กับการดูแลในเรื่องของคน
หรือสมดุลระหว่างคนทำงานมานานกับคนรุ่นใหม่ที่มีวิธีคิดและทำงานในรูปแบบใหม่ หรือสมดุลระหว่างความยั่งยืน การทำประโยชน์เพื่อสังคม สิ่งแวดล้อมกับผลตอบแทนทางด้านการเงิน หรือสมดุลระหว่างการบุกเบิกธุรกิจใหม่กับธุรกิจหลักดั้งเดิมที่มีมานาน เป็นต้น
การหาจุดสมดุลที่เหมาะสมระหว่างสิ่งที่แตกต่างนั้นไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่เป็นทักษะและศิลปะที่ผู้นำจะต้องเรียนรู้และหาให้เจอ
โดยสรุปทั้งห้าคุณลักษณะข้างต้นถือเป็นคุณลักษณะต่อยอดที่ผู้นำควรจะต้องมี นอกเหนือจากคุณลักษณะของผู้นำที่ดีที่มีอยู่ เพื่อให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้นและเร็วขึ้น