ตำรวจ ปทส. จับขบวนการลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซุกรถบัสส่งประเทศเพื่อนบ้าน
ตำรวจ ปทส. จับกุมขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองข้ามชาติ ได้ผู้ต้องหาชาวเวียดนาม 3 ราย พร้อมของกลาง นกปรอดหัวโขน 21 ตัว สัตว์ต่างประเทศอีกหลายชนิด พบพฤติกรรมแยบยล แฝงปะปนสินค้าซุกรถบัสโดยสารระหว่างประเทศ
วันนี้ (9 ม.ค. 66) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. สั่งการ พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส. พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ ชูกรณ์ สว.กก.1 บก.ปทส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ปทส. สนธิกำลังร่วมกับ ชุดปฏิบัติการเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติ บุกเข้าจับกุมขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ
สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย เป็นชาย อายุระหว่าง 38-40 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม พร้อมของกลาง นกปรอดหัวโขน จำนวน 21 ตัว รถยนต์กระบะ 1 คัน รถบัส ติดแผ่นป้ายทะเบียน ประเทศลาว จำนวน 1 คัน โดยจับกุมตัวได้ที่ บริเวณลานจอดรถทัวร์ ภายในซอยรามอินทรา แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ลักลอบนำสัตว์ป่าคุ้มครองแฝงไปกับสินค้าต่างๆ ในรถโดยสารระหว่างประเทศที่ถูกดัดแปลงขึ้นเพื่อใช้ในการขนลำเลียง เตรียมนำส่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่าจะมีการขนถ่ายสินค้ากันบริเวณลานจอดรถทัวร์แห่งหนึ่งย่านรามอินทรา จึงกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์
กระทั่งเมื่อเห็นผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย กำลังช่วยกันขนถ่ายกล่องพัสดุจากรถกระบะไปไว้ในรถบัส จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ก่อนพบนกปรอดหัวโขน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ถูกซุกซ่อนอยู่ในกล่องลังกระดาษ จำนวน 21 ตัว นอกจากนี้ ตรวจสอบภายในรถยังพบสัตว์ต่างประเทศ หลากหลายชนิดจำนวนมาก เช่นเต่า 929 ตัว, กิ้งก่า 4 ตัว และ งู 6 ตัว ถูกซุกซ่อนอยู่ในช่องลับ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้ตรวจสอบแหล่งที่ไปที่มา พร้อมกับคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 มาทำการสอบปากคำอย่างละเอียด
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ ว่ามีผู้ว่าจ้างเป็นเงิน 4,200 บาท ให้นำนกปรอดหัวโขนไปส่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะได้รับค่าจ้างหลังจากที่จัดส่งสินค้าเสร็จเรียบร้อย นอกจากนี้ ยังยอมรับว่ามีการดัดแปลงภายในรถขึ้นมาเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา "ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป