ขีดเส้น 2 วัน พิสูจน์เอกลักษณ์ เหยื่อ 'โรงงานพลุระเบิด' ญาติรับศพแล้ว 5 ราย
ขีดเส้น 2 วัน "รองผบ.ตร." สั่งเร่งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เหยื่อ "โรงงานพลุระเบิด" ยืนยัน เสียชีวิต 23 ราย ญาติรับศพแล้ว 5 ราย ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 คาดโรงงานเก็บดินระเบิดไว้จำนวนมาก
วันนี้ (18 ม.ค. 67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุโรงงานพลุระเบิด ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดสุพรรณบุรี ขึ้นภายในวัดโรงช้าง ว่าวันนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ขณะนี้ได้ให้น้ำหนักไปที่การเร่งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต ซึ่งในจำนวน 23 ศพ ตอนนี้พิสูจน์ไปเสร็จแล้ว 10 ศพ ญาติยืนยันรับศพแล้ว 5 ราย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ เก็บดีเอ็นเอ ของญาติผู้เสียชีวิต 23 ราย นำมาเทียบเคียงว่าเป็นญาติของใคร และยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพียง 23 ศพ ไม่มีผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้ผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมดเป็นคนที่อยู่ในโรงงานทั้งสิ้น ทั้งนี้ได้เร่งรัด ให้นิติเวชพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้
โดยการส่งมอบศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีฌาปนกิจ จะต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อน โดยสามารถพิสูจน์จากเอกลักษณ์บุคคล เช่น รอยสัก เสื้อผ้าที่สวมใส่ เครื่องประดับ ลายนิ้วมือ ฟัน และผลเปรียบเทียบดีเอ็นเอของญาติด้วย เพื่อความถูกต้อง เนื่องจากบางศพมีลักษณะเป็นชิ้นส่วนที่หลุดออกจากร่างกาย
ส่วนสาเหตุขณนี้ มีการเรียกพยานแวดล้อมมาสอบปากคำ แต่เนื่องจากว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์เสียชีวิตทั้งหมด จึงมีการเรียกคนที่เคยทำงานที่โรงงานแห่งนั้นรวมถึงคนที่หยุดงานในวันที่เกิดเหตุ มาให้ปากคำ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิต มีขั้นตอนไหนที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระเบิดได้ เบื้องต้นสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเกือบหมดแล้ว ทั้งญาติและพยานแวดล้อม โดยผลการสอบปากคำก็จะนำไปประกอบผลพิสูจน์หลักฐาน และผลนิติเวช เพื่อหาสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ต.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้บังคับการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 เปิดเผยหลังจากที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับ หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการหาสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้
โดยการแบ่งพื้นที่ตรวจสอบเป็น 4 โซน คือ A B C D พบหลุมระเบิดทั้งหมด 23 หลุม มี 1 หลุม ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่มีการเก็บดินระเบิด ที่เป็นส่วนประกอบในการผลิตพลุดอกไม้ไฟ มีลักษณะเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 5.3 เมตร ลึก 1 เมตร ที่อยู่ในจุดโซน B
ทั้งนี้จากการตรวจสอบลักษณะของร่างผู้เสียชีวิต ที่กระเด็นไปทางฝั่งทุ่งนาที่อยู่ด้านหน้าของตัวโรงงาน ซึ่งมีลักษณะกระเด็นไปไกลไม่ต่ำกว่า 160 เมตร จึงสันนิษฐานว่า ในโซน C และ D ที่เป็นส่วนของการตั้งอาคารในการประกอบพลุดอกไม้ไฟ น่าจะเป็นจุดแรกที่มีการระเบิด ที่อาจจะเกิดจากสะเก็ดไฟในขั้นตอนการบรรจุ ก่อนจะลามไปยังจุดที่บรรจุดินระเบิด จึงทำให้แรงอัดจากระเบิดทำให้ร่างของผู้เสียชีวิตกระเด็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจุดนี้พบหลุมระเบิด 22 จุด
ส่วนหลุมระเบิดสามารถบอกถึงปริมาณดินที่เป็นวัตถุระเบิดได้ หากหลุมขนาดใหญ่ก็เท่ากับว่ามีดินระเบิดจำนวนมาก จากการประเมินคาดว่าจะมีอย่างน้อย 400-500 กิโลกรัม เฉพาะหลุมใหญ่ อำนาจการทำลายล้างในรัศมีประมาณ 1.5 กิโลเมตร แรงที่ทำให้เสียชีวิตในทันทีประมาณ 100-200 เมตร ส่วนความแน่ชัดว่าเกิดระเบิดจากสาเหตุใด ต้องรอพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบทั้งหมดก่อน แล้วค่อยมาวิเคราะห์กับการตรวจพื้นที่เกิดเหตุนี้จึงจะสามารถระบุได้อย่างชัดเจน