ตร.หิ้ว 'ตี๋ ทรายทอง' หัวหน้าแก๊ง ทำแผนรุมยำเด็ก 13 ก่อนส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้
ตำรวจหิ้ว 'ตี๋ ทรายทอง' หัวหน้าแก๊ง ไปทำแผนฯรุมยำเด็ก 13 ก่อนส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้ (24 ม.ค.67) ผู้ปกครองส่อโดนด้วย
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายปฏิภาณ หรือ ตี๋ อายุ 18 ปี หัวหน้าแก๊งทรายทอง ได้เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 22 ม.ค.67 ที่ผ่านมา นั้น
ล่าสุดวันนี้ (23 ม.ค.67) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี , พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี , พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.นนทบุรี (พยัคฆ์นนท์ 66) และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้นำตัวนายปฏิภาณ หรือ ตี๋ อายุ 18 ปี หัวหน้าแก๊งทรายทอง ขึ้นรถไปชี้จุดเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยจุดที่ 1 บริเวณสนามสุขภาพลานออกกำลังกายทรายทองวิลเล็จ ภายในหมู่บ้านทรายทอง ซอยติวานนท์45 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดที่นายตี๋กับพวกรวมตัวกัน ส่วนจุดที่ 2 หน้าปากซอยติวานนท์54 เป็นจุดที่ทำร้ายเด็กอายุ 16 ปี และจุดที่ 3 ภายในซอยทานสัมฤทธิ์28 ต.ท่าทราย อ.เมือง เป็นจุดที่นายตี๋กับพวกรุมกระทืบนายเอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ภายหลังการทำแผนฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายตี๋กลับไปที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ และจะนำตัวไปฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรี ในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.67)
พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายตี๋ หัวหน้าแก๊งทรายทอง มาทำการชี้จุดที่เกิดเหตุ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตอนนี้ยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับนายตี๋อยู่ 2 คดี ดังนั้นจึงได้นำตัวนายตี๋มาชี้บริเวณที่เกิดเหตุจำนวน 2 จุด และจุดที่ 3 คือจุดรวมตัวกัน ซึ่งขณะนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน และทางตำรวจได้ดำเนินคดีครบทุกคน
หลังสอบปากคำได้ส่งเยาวชนที่กระทำความผิดไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรี โดยทางตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว และได้นำตัวส่งเข้าสถานพินิจฯ เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าเป็นเยาวชนเมื่อกระทำความผิดจะถูกลงโทษเพียงเล็กน้อย ไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากพฤติการณ์ในการกระทำความผิดทำให้ประชาชนเดือดร้อนก็อยู่ในดุลพินิจของศาล ที่อาจจะไม่ให้ประกันตัว อย่างเช่นกรณีนี้เป็นตัวอย่าง
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวในตอนท้ายว่า ส่วนผู้ปกครองอยู่ระหว่างสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง ถ้าผู้ปกครองปล่อยปละละเลยให้ลูกหลานที่อยู่ในความปกครองไปก่อความเดือดร้อนรำคาญ สร้างความเดือดร้อน หรือก่อคดีให้มีผู้เสียหาย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย
