อัปเดต เศรษฐีนีเสียชีวิตปริศนาคาสวนผลไม้ พบศพลอยอืดในบ่อน้ำ สืบปม 30 ล้าน

ความคืบหน้า กรณีเศรษฐีนีสาวใหญ่ เจ้าของสวนผลไม้ เสียชีวิตปริศนา เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรมะขาม ได้รับแจ้งเหตจุ พบศพผู้เสียชีวิตลอยขึ้นอืดอยู่ในสระน้ำ บริเวณสวนผลไม้หลังปั๊มน้ำมันเก่า ในเขตพื้นที่ หมู่ 2 ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย และญาติของผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุ พบร่างของผู้เสียชีวิต ลอยอืดอยู่ในสระน้ำ มีจอกแหนปกคลุมตามร่างกาย สีดูกลมกลืนกับพื้นของสระน้ำ บริเวณขอบสระ มีร่องรอยของการลื่นไถล 

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.วีรพล สิทธิพันธ์ ร้อยเวร สภ.มะขาม ได้เดินทางมาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า ทางญาติของผู้เสียชีวิต สงสัยในการเสียชีวิตครั้งนี้ เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องสงสัยหลายอย่าง 

ทางพนักงานสอบสวน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมกับเจ้าหน้าที่แพทย์เวร ให้เดินทางมาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม 

เบื้องต้นพบว่ามีหลักฐานหลักฐานสำคัญคือ (เซิร์ฟเวอร์) ของกล้องวงจรปิด ได้ถูกถอดหายไปจากบ้าน ทางญาติเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ผู้เสียชีวิตไม่มีครอบครัว อยู่ภายในสวนเพียงลำพังคนเดียว โดยก่อนหน้านี้ ประมาณ 3 วัน ญาติของผู้เสียชีวิตที่อาศัยอยู่กรุงเทพฯ ได้ติดต่อมาหา แต่ไม่สามารถติดต่อตัวผู้เสียชีวิตได้ 

ดังนั้น จึงได้โทรศัพท์มาหาญาติอีกฝ่ายที่อยู่ในจังหวัดจันทบุรี เพื่อให้มาตรวจสอบ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน จากนั้นจึงประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้าตรวจสอบ จนกระทั่งมาพบว่า ได้เสียชีวิตอยู่ในสระน้ำดังกล่าว 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้มอบศพของผู้เสียชีวิตให้กับทางกู้ภัยนำส่งไปยังสถาบันนิติเวช ของโรงพยาบาลพระปกเกล้า เพื่อทำการผ่าพิสูจน์หาร่องรอยของการเสียชีวิตที่แน่ชัด เนื่องจากทางญาติยังคงติดใจในการเสียชีวิตครั้งนี้ 

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรมะขาม ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ กู้ภัยสว่างกตัญญูฯ ให้เข้ามาในพื้นที่ เพื่อค้นหาวัตถุพยานเพิ่มเติม เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่สูญหายไป แต่การค้นหาก็ยังไม่พบ 

สำหรับบ้านของผู้เสียชีวิต ที่ผ่านมาเคยเป็นปั๊มน้ำมันเก่า ต่อมาในภายหลังได้ปิดให้บริการไปแล้ว โดยตั้งอยู่ริมถนนสาย 317 จันทบุรีจันทบุรี-สระแก้ว ก่อนถึงแยกไฟแดงมะขาม บ้านลักษณะเป็นรั้วรอบขอบชิด กำแพงสูง ด้านหลังบ้านเป็นสวนผลไม้ประมาณ 12 ไร่ เดินจากบ้านไปถึงที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร และสระน้ำที่พบศพ กว้างประมาณ 30 เมตรยาวประมาณ 60 เมตร

ทั้งนี้ จากการสอบถามเพื่อนของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย และคบหากันมานานหลายปี และที่ผ่านมา ก็มักไปกินข้าวด้วยกันบ่อยครั้ง อีกทั้งยังทราบด้วยว่า เพื่อนคนนี้ได้ปล่อยเงินกู้ด้วย ซึ่งตนเองเคยบอกไปแล้วว่า ให้เลิกทำ แต่ก็ไม่ทราบว่า ผู้ตายเลิกหรือยัง และไม่ทราบว่ามีการปล่อยกู้ให้กับใครบ้าง และเป็นเงินเท่าไหร่ 

ทางด้านญาติผู้ตาย ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ตนเองติดใจในการเสียชีวิต แต่ไม่สะดวกในการให้สัมภาษณ์ออกสื่อ ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะเป็นผู้ที่คลี่คลายคดี หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องเรื่องที่เกิดขึ้น 

ทีมข่าวรายงานว่า สำหรับข้อมูลล่าสุด จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลพระปกเกล้า เบื้องต้นพบว่า บริเวณช่วงอก และลำตัวของผู้เสียชีวิต ซี่โครงหักทั้งสองข้าง จำนวนหลายซี่ และมีบาดแผลที่ศีรษะ (แต่ไม่ใหญ่) รวมทั้งมีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง นอกจากนี้จากการตรวจสออวัยวะภายใน แพทย์ไม่พบน้ำในปอด 

ส่วนปมเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้ เบื้องต้นทราบมาว่า ก่อนหน้าที่ผู้ตายจะเสียชีวิต ได้แต่งต้ั้งทนายความ เพื่อเตรียมฟ้องร้องกับลูกหนี้รายหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาเคยมายื่มเงินไปมากกว่า 10 ล้านบาท รวม 30 ล้านบาท แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายคืนเงิน ลูกหนี้รายนี้กลับไม่ยอมชดใช้ และเบี้ยวการจ่ายเงิน จนทำให้ผู้ตายได้ตั้งทนายความ เพื่อเตรียมที่จะฟ้องร้องลูกหนี้รายนี้
 

 พิรุธเงินในบัญชี 30 ล้าน ถูกถอนไร้ร่องรอย 

พลตำรวจตรี ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ค่ำวานนี้ได้เดินทางไปยังบ่อน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ และพบศพสาวสูงวัยที่เสียชีวิตอย่างปริศนาอีกครั้ง พร้อมด้วยเจ้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด และชุดสืบสวน สภ.มะขาม เพื่อเก็บหลักฐานวัตถุพยานเพิ่มเติม 

หลังจากผลชันสูตรร่างผู้เสียชีวิต ปรากฏออกมาว่า มีซี่โครงทั้งสองข้างหักจำนวนหลายซี่ มีแผลที่ศีรษะ มีรอยฟกช้ำตามร่างกาย และไม่มีน้ำในปอด ซึ่งเป็นการผิดปกติของการเสียชีวิตในลักษณะของการจมน้ำอย่างแน่นอน

 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบมูลเหตุการเสียชีวิตว่า เป็นเหตุฆาตกรรม แต่ยังไม่ตัดประเด็นอุบัติเหตุที่อาจจะเดินตกขอบสระน้ำด้วยตนเอง 

จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า บัญชีธนาคารหลายบัญชี มีเงินเหลือเพียงบัญชีละหลักพันบาทเท่านั้น (ไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึก) ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นว่า อาจมีการเชื่อมโยง เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินไปลงทุนทำธุรกิจ จำนวนกว่า 30 ล้านบาท โดยทราบว่า ก่อนหน้านี้มีการร่างเรื่องเพื่อให้ทนายเตรียมฟ้องร้องกับผู้ที่มาขอยืมเงินรายหนึ่ง แต่ก็มาเกิดการเสียชีวิตเสียก่อน 

รายละเอียดอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน สำหรับทางด้านคดี ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ระดมกำลังออกหาเบาะแส โดยเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งคนสนิท คนงานที่เคยทำงานอยู่ มาพิมพ์ลายนิ้วมือทุกคน 

ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเร่งติดตามบุคคลที่ถอดเอาเซิร์ฟเวอร์ ออกไปจากบ้านหลังดังกล่าว ส่วนกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงก็ยังคงไร้วี่แวว