ยึดแล้ว 'สิงโต' 2 ตัว หลังพบไม่มีเอกสารครอบครอง เจ้าของน้ำตาคลอ-สวมกอดลา
กรมอุทยานฯ - ตำรวจ ทำการตรวจยึด 'สิงโต' 2 ตัว เคลื่อนย้ายไปศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์ป่าบางละมุง หลังพบไม่มีเอกสารครอบครอง
จากกรณีเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา พบ 'สิงโต' จำนวน 2 ตัว หลุดออกมาเดินบนท้องถนน ภายในซอย 13 เขามะกอก ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งได้สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก ต่อมา น.ส.จรินย์ญาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ได้แสดงตัวเป็นเจ้าของสิงโตดังกล่าว พร้อมนำเอกสารหลักฐานการซื้อจากฟาร์มมาแสดง แต่ปรากฏว่ามี สิงโตเพศเมีย 1 ตัว ที่ข้อมูลไม่ตรงกับเอกสารรับรองการซื้อจากฟาร์ม เนื่องจากฟาร์มระบุเป็นเพศผู้ และไม่มีการแจ้งครอบครองสัตว์ป่าควบคุมประเภท ก. (สิงโต) กับเจ้าหน้าที่อีกด้วย อีกทั้ง ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจยึดสิงโตดังกล่าว จนพลบค่ำตะวันตกดินเจ้าหน้าที่ตัดสินใจถอนกำลัง เพื่อกลับไปรวบรวมหลักฐาน ก่อนขอหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านพักในเช้าวันนี้ (26 ม.ค.67) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 26 ม.ค.67 เวลา 12.00 น. นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรถพล อิทธโยภาสกุล ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ สนธิกำลังตำรวจ บก.ปทส. ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา ตรวจสอบบ้านพักที่เลี้ยงสิงโตอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบสิงโต 2 ตัวในบ้านพัก โดย น.ส.จรินย์ญาภรณ์ เจ้าของสิงโต ได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดสิงโตขาวจำนวน 2 ตัว
โดยตัวแรกนั้นเป็น สิงโตสีน้ำตาล สายพันธุ์สิงโตแอฟริกา เพศผู้ ชื่อ 'จ้าวซัว' อายุประมาณ 1 ปี ส่วนตัวที่สองเป็น สิงโตสีขาว เพศเมีย ชื่อ 'หลิวหลิว' วัยประมาณ 1 ปี และจากการใช้เครื่องมือตรวจสอบพบว่าเลขไมโครชิฟที่ฝังกับตัวเจ้าหลิวหลิว ไม่ตรงกับใบซื้อขายกับฟาร์ม อีกทั้งใบเอกสารยังระบุเป็นเพศผู้
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบอย่างอะเอียดพบว่าเจ้าของไม่ได้ไปขึ้นทะเบียนสิงโตทั้งสองตัว ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 19 กำหนดอนุบัญญัติให้มีการแจ้งการครอบครอง ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตรวจยึดสิงโตไว้ตรวจสอบก่อน
ขณะตรวจยึด หัวหน้าชุดได้ขอความร่วมมือเจ้าของให้พาสิงโตเข้ากรงเหล็กที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งเจ้าของได้เข้ากอดสิงโตทั้งสองตัวด้วยความรักและผูกพัน ก่อนจะเข็นกรงออกจากนอกบ้าน โดยเอาเชือกคล้องกับกรงเหล็กแล้วใช้รถเครนยกขึ้นใส่รถเคลื่อนย้ายสัตว์ไปส่งยัง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จ.ชลบุรี ไม่มีการใช้ปืนยิงยาสลบ เพราะเกรงว่าสิงโตอาจจะแพ้ยาและได้รับอันตรายได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้องชายของเจ้าของสิงโตมีสีหน้าเคร่งเครียดและน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา เนื่องจากมีความผูกพันธ์กับสิงโตทั้งสองตัว เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายสิงโตอย่างระมัดระวัง เพราะสิงโตมีอาการตื่นกลัวตลอดเวลา และพยายามหันหน้ามองหาเจ้าของตลอดเวลา โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็สามารถนำขึ้นรถบรรทุกได้สำเร็จ แล้วเดินทางไปยังศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์ป่าบางละมุง (เขาชีโอน) ทันที
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.จรินย์ญาภรณ์ เจ้าของสิงโต ในความผิดฐาน ครอบครองสัตว์ป่าควบคุมประเภท ก. (สิงโต) โดยไม่มีการแจ้งต่อเจ้าพนักงาน ส่วนสิงโตทั้งสองตัวนั้น เจ้าของต้องนำเอกสารมาแสดงในการขึ้นทะเบียนและการได้มาให้ถูกต้องตามระเบียบ เพื่อติดต่อขอรับกลับ ส่วนขั้นตอนที่ฟาร์มจะขอซื้อคืนก็จะต้องทำเอกสารหลักฐานต่างๆ รวมถึงการเคลื่อนย้ายให้ถูกต้องเช่นเดียวกัน
สำหรับ ผู้แจ้งครอบครองสิงโตขาวพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีด้วยกันทั้งหมด 5 ราย จำนวน 15 ตัว แบ่งเป็นตัวบุคคล 4 ราย และเป็นฟาร์มอีก 1 ราย
ขณะที่ ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวต่างรู้สึกสบายใจขึ้นที่ได้มีการเคลื่อนย้ายสิงโตออกไปจากชุมชนแห่งนี้ โดยยอมรับว่า หลังจากที่สิงโตหลุดออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็ได้สร้างความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าจะไล่กินเด็กน้อยที่ไม่รู้ตาสีตาสาที่พักอาศัยอยู่ในชุมชนละแวกดังกล่าว อีกทั้งยังลดเรื่องเสียงดัง ที่สิงโตมักจะชอบเล่นกันในช่วงกลางคืน และเรื่องกลิ่นเหม็นที่มีแมลงวันเป็นพาหะนำโรคติดต่อมาสู่คนได้
นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบฟาร์มสิงโตแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม เนื่องจากพบว่าสิงโต 2 ตัวนี้ ได้มาจากฟาร์มเดียวกันกับสิงโตตัวที่มีข่าวชาวต่างชาติพานั่งรถสปอร์ตหรูเปิดประทุนกินลมชมวิวที่เมืองพัทยา และเพิ่งจะเข้าตรวจสอบดำเนินคดีกับเจ้าของไปเมื่อวันก่อน