'ร.ต.อ.' นอนคุก! ศาลไม่ให้ประกัน คดีขืนใจนักเรียน ม.5 แลกค่าปรับใบขับขี่
นอนคุก! ศาลไม่ให้ประกัน 'ร.ต.อ.' สภ.ป่าติ้ว ขืนใจนักเรียน ม.5 แลกค่าปรับใบขับขี่ ชี้คดีอุกฉกรรจ์อัตราโทษสูง เจอ 2 ข้อหาหนัก ซ้ำถูกให้ออกจากราชการ
ความคืบหน้ากรณี 'ร.ต.อ.' สภ.ป่าติ้ว ข่มขืนนักเรียน ม.5 แลกค่าปรับใบขับขี่ ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (30 ม.ค.67) พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรป่าติ้ว ได้ควบคุมตัว ร.ต.อ.กัมปนาท (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ตำแหน่ง รองสารวัตรสืบสวน สภ.ป่าติ้ว ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร ผู้ต้องหาในคดีพรากผู้เยาว์ อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และข่มขื่นกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังขู่เข็ญโดยใช้กำลังประทุษร้าย ไปยื่นคำร้องฝากขังผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ที่ศาลจังหวัดยโสธร เนื่องจากต้องสอบสวนพยานบุคคลอีก 10 ปาก รวมทั้งรอผลผลการตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือ และรอผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหายจากแพทย์
ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริง ท้ายคำร้องหากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้าน เนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาเป็นอุกฉกรรจ์ คดีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โดยทางผู้เสียหายก็ยื่นคัดค้านการประกันด้วย ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ และภายหลังผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำจังหวัดยโสธรต่อไป
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิงวัย 17 ปี จริง หลังจากได้เรียกตรวจที่เด็กขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่มีใบอนุญาตขับขี่ โดยได้แจ้งค่าปรับ 2,000 บาท แต่เด็กไม้มีเงินจ่ายจึงได้พาไปที่ห้องเก็บของซึ่งอยู่ด้านหลังของสำนักงาน กศน.อำเภอป่าติ้ว ห่างจากจุดเรียกตรวจประมาณ 100 เมตร และห่างจากสถานีตำรวจภูธรป่าติ้วประมาณ 200 เมตร โดยจุดเกิดเหตุไม่ได้เป็นสถานที่เปลี่ยว อยู่ในสถานที่ราชการและมีคนพลุกพล่าน ส่วนถนนที่เรียกตรวจรถก็เป็นถนนสายหลักมี 4 ช่องจราจร
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา นักเรียนหญิงขี่จักรยานยนต์มากับเพื่อน 2 คน โดยผู้เสียหายเป็นคนขี่ และเพื่อนซ้อนท้าย โดยมาจากบ้านกำลังจะไปโรงเรียน ขณะนั้นตำรวจยศ ร.ต.อ. ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร ขี่จักรยานยนต์ตรวจตราไปตามถนน ไม่ใช่การตั้งด่าน เห็นผู้เสียหายขี่จักรยานยนต์ ไม่สวมหมวกนิรภัย จึงเรียกตรวจและพบว่าไม่มีใบขับขี่ จึงเรียกปรับ 2,000 บาท แต่นักเรียนหญิงไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ตำรวจจึงพานักเรียนหญิงซ้อนท้ายรถไปก่อเหตุข่มขืนที่ กศน. แลกกับไม่ต้องจ่ายค่าปรับ
หลังเกิดเหตุนักเรียนหญิงได้ไปบอกกับผู้ปกครอง ก่อนจะมีการแจ้งความและร้องเรียนผ่านเพจสายใหม่ต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ พนักงานสอบสวนจึงพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย และควบคุมตัวตำรวจยศ ร.ต.อ. ผู้ถูกกล่าวหาไว้ดำเนินคดี ผลสอบเบื้องต้นพบว่ากระทำผิดจริง จึงให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมแจ้ง 2 ข้อหาหนัก พรากผู้เยาว์อายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร , ข่มขืนกระทำชำเรา โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยประทุษร้าย