อัปเดต แอบอ้าง ตำรวจกองปราบ ยัดยา-รีดเงินแสน โดนหลายคนเกมแล้ว
อัปเดต ลุยไม่เลี้ยงฟันแล้ว! แอบอ้าง ตำรวจกองปราบ ยัดยา-รีดเงินแสน โดนหลายคนเกมแล้ว
KEY
POINTS
สอบถามคำให้การเบื้องต้น นายมานะรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวกับพวกจริง จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น พบเสื้อผ้า โทรศัพท์ รถจักรยานยนต์ คัตเตอร์ ที่ใช้ในการก่อเหตุรวมทั้งสิ้น 8 รายการ จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำบันทึกจับกุม บันทึกตรวจค้น และบันทึกตรวจยึด ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
กรณีหนุ่มใหญ่อ้างเป็นตำรวจกองปราบ ยัดยา รีดเงินแสน รับก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
อัปเดตล่าสุด ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุมนายมานะ อายุ 58 ปี และ นายวีรยุทธ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหา ในฐานความผิด
ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย"
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2567 เพจสายไหมต้องรอด ได้พาผู้เสียหายจำนวน 2 คน ร้องขอความเป็นธรรม และแจ้งความให้ดำเนินคดีกับชายฉกรรจ์ 4 คน ที่ สน.สายไหม สาเหตุจากเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2567 มีชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบ เข้าค้นบ้านเช่าผู้เสียหายแต่ไม่พบสิ่งกฎหมาย ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวจึงพาผู้เสียหายขึ้นรถไปพร้อมกับกลุ่มผู้ต้องหา โดยอ้างว่าจะพาไปสอบสวน
จากนั้นได้มีการจอดรถยนต์คุยบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง และได้หยิบยาเสพติดมาวางไว้บนตักของผู้เสียหาย จากนั้นบังคับให้ผู้เสียหายชี้และรับว่ายาเสพติดเป็นของตน เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมรับจึงถูกข่มขู่ และทำร้ายร่างกาย
กลุ่มผู้ต้องหาจึงเสนอให้ผู้เสียหายหาเงินมา 100,000 บาท เพื่อเคลียร์คดี แต่ผู้เสียหายไม่มีเงินจึงทำการค้นตัวพบเงินจำนวน 5,200 บาท จึงได้เอาเงินของผู้เสียหายไป 5,000 บาท และนำผู้ต้องหามาปล่อยตัวที่บริเวณรามอินทรา 46 พร้อมกับบอกว่าให้ผู้เสีหายหาเงินส่วนที่เหลือมาให้ โดยข่มขู่ผู้เสียหายว่าอย่าคิดที่จะหนี เพราะถึงจะหนีก็สามารถติดตามตัวได้ หลังจากได้รับการปล่อยตัว ผู้เสียหายเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงได้เข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด
ต่อมาตำรวจกองปราบ ได้ประสานข้อมูลกับ ชุดสืบสวน สน.สายไหม จนทราบว่าหนึ่งในผู้ต้องหานั้นคือ นายมานะ จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยกับแฟนสาว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหาที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในซอยลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร จึงเข้าจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดี