ผู้การปากน้ำ เข้าสอบปากคำด้วยตัวเอง หญิงไทย เอี่ยวอุ้มฆ่าชายไต้หวัน

ผู้การปากน้ำ เข้าสอบปากคำด้วยตัวเอง หญิงไทย เอี่ยวฆ่าชายไต้หวัน เจ้าตัวระบุ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมหรือเคลื่อนย้ายอำพรางศพ แต่เห็นเหตุการณ์เป็นบางช่วง

วันนี้ (27 ก.พ. 67) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้เดินทางมาที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะมาติดตามความคืบหน้าคดีหลังจากที่สามารถจับตัว นางสาวปียานุช หรือ น้ำตาล อายุ 22 ปี ได้แล้ว พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าร่วมตรวจสอบ

พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า สำหรับคดีดังกล่าวต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน รวมถึงตำรวจหลายหน่วยงานที่บูรณาการการทำงาน จนสามารถที่จะพิสูจน์ทราบตัวผู้เสียชีวิต ทำให้คดีสามารถคลี่คลายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น นำไปสู่การกดดันทำให้หญิงชาวไทยรายนี้ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับทางตำรวจ เนื่องจากหญิงคนดังกล่าวเองมีบ้านอยู่ที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังก่อเหตุจึงได้มีการพูดคุยกับทางแฟนหนุ่มเพื่อจะขอเดินทางกลับ ซึ่งจากการสอบปากคำหญิงชาวไทยรายนี้ เบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ บอกว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมหรือเคลื่อนย้ายอำพรางศพ แต่เห็นเหตุการณ์เป็นบางช่วง และในขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด และได้ยินเสียงผู้ตายพูดเป็นภาษาจีนว่าขอโทษ 3 ครั้ง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับพยานที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณจุดเกิดเหตุ
 

เกี่ยวข้องตรงกับคำให้การหรือไม่ โดยหลังจากที่สอบปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้วหลังจากนี้ก็จะมีการนำตัวส่งศาลฝากขังต่อ ส่วนจะมีความผิดจริงหรือไม่ก็จะต้องไปพิสูจน์ทราบกันต่อในชั้นศาล

ส่วนเรื่องของปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ เบื้องต้นตำรวจ ตรวจสอบปืนกระบอกดังกล่าวแล้วพบว่ามีการ ซื้อขาย เปลี่ยนมือต่อกันมา 3 ทอดกว่าจะมาถึงมือของแก๊งชายชาวไต้หวัน ซึ่งตอนนี้พอจะมีเบาะแสบางส่วนแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางอาวุธปืนก่อนที่จะมาถึงตัวของชายชาวไต้หวันว่าก่อนหน้านี้อยู่ในมือของใคร
 

ส่วนประเด็นในการสืบสวนสอบสวนตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ 1.เรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย (ยาเสพติด) 2.เรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ 3. เรื่องชู้สาว โดยตำรวจตั้งประเด็นหลักไว้ที่เรื่องของธุรกิจผิดกฎหมาย แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นๆทิ้ง

ส่วนผู้ต้องหา ชายชาวไต้หวันทั้งหมด 4 คน เบื้องต้นหนึ่งคนได้กลับประเทศไปแล้ว ส่วนอีกสามคนยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชา ขณะนี้ตำรวจยังอยู่ ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป