รวบแก๊งอ้างตัวเป็น จนท.สรรพากร หลอกเปิดบัญชี เป๋าตุง ปลอม สูญเงิน 2.9 ล้าน

รวบแก๊งอ้างตัวเป็น จนท.สรรพากร หลอกเปิดบัญชี เป๋าตุง ปลอม สูญเงิน 2.9 ล้าน

ไม่รอด! ตำรวจไซเบอร์ รวบ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็น จนท.สรรพากร หลอกเปิดบัญชี เป๋าตุง ปลอม! ลวงให้กรอกข้อมูลก่อนโอนเงินออกจากบัญชี สูญกว่า 2.9 ล้าน

ตามนโยบาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 เร่งรัดปราบปรามจับกุม 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' ดังกล่าว เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนจากการสูญเสียทรัพย์สินและตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

 

สืบเนื่องจากคดีนี้ ผู้เสียหายได้แจ้งกับพนักงานสอบสวน มีโทรศัพท์โทรมาแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร และให้เปิดบัญชี “เป๋าตุง” เพื่อไม่ต้องมีการเสียภาษี โดยให้กรอกข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ต จากนั้นเงินในบัญชีก็ถูกโอนออกไปจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย จำนวน 2,900,000 บาท จึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.3

 

พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ผบช.สอท. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 นำโดย พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 ดำเนินการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับและเร่งรัดจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี

 

ต่อมาวันที่ 7 มีนาคม 2567 พ.ต.ท.ธนัช ธนาบุญประกอบ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ และ พ.ต.ต.เอกสิทธิ์ พระศรี สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้สืบสวนทราบว่า หนึ่งในขบวนการดังกล่าวคือ นางประทุมรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวจังหวัดกรุงเทพมหานคร จึงได้วางแผนจับกุม

 

รวบแก๊งอ้างตัวเป็น จนท.สรรพากร หลอกเปิดบัญชี เป๋าตุง ปลอม สูญเงิน 2.9 ล้าน

 

 

ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์ พบนางประทุมรัตน์อยู่บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในซอยเพชรเกษม 48 ถนนเพชรเกษม แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร มีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมในความผิดฐาน

  • ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป
  • ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีความเชื่อมโยงกับเคสไอดีอื่น และมีหมายจับเพิ่มเติมอีก 1 หมาย คือ หมายจับของศาลอาญา ที่ 3236 /2566 ลงวันที่ 22 กันยายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน

  • ร่วมกันลักทรัพย์
  • ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งมีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
  • ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น

ซึ่งจะได้ประสานพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 ทำการอายัดตัวต่อไป