เฝ้าระวัง โรคแอนแทรกซ์ โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน หลังพบผู้ป่วยในลาวแล้ว 3 ราย
กรมปศุสัตว์ เผยพบ 'โรคแอนแทรกซ์' โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ระบาดในลาว เหตุกินเนื้อวัว-ควายดิบ สั่งยกระดับเข้มงวดด่านกักกันสัตว์แนวชายแดนไทย-ลาว สกัดลักลอบนำเข้า
วันนี้ (9 มีนาคม 2567) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในขณะนี้ กรมปศุสัตว์ ได้แจ้งเตือนการพบ 'โรคแอนแทรกซ์' (anthrax) ซึ่งเป็น โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ในประเทศลาว โดยมีสาเหตุจากการบริโภคเนื้อโค - กระบือดิบ
โดยเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 มีรายงานข่าวต่างประเทศว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ 3 ราย ที่เมืองสุขุมา แขวงจำปาสัก ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่ง โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยโรคนี้มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacillus anthracis) สัตว์ที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในดินหรือหญ้าเข้าสู่ร่างกาย หรือจากการกินน้ำและอาหารที่มีเชื้อปะปนเข้าไป เมื่อเชื้อเข้าตัวสัตว์จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น พร้อมสร้างสารพิษทำให้สัตว์ป่วยและตายในที่สุด
ทั้งนี้ระหว่างสัตว์ป่วย เชื้อจะถูกขับออกมากับอุจจาระปัสสาวะ หรือน้ำนม เมื่อเปิดผ่าซาก เชื้อสัมผัสกับอากาศจะสร้างสปอร์ทำให้คงทนในสภาพแวดล้อมได้นาน โค กระบือ แพะ และแกะที่ป่วยจะมีอาการแบบเฉียบพลันคือ จะตายอย่างรวดเร็ว มีเลือดสีดำคล้ำไหลออกตามทวารต่างๆ ซากไม่แข็งตัว สำหรับคนที่ผ่าซากหรือบริโภคเนื้อสัตว์ที่ป่วยด้วยโรคนี้แบบสุกๆ ดิบๆ จะพบแผลหลุมตามนิ้วมือ แขน หรือช่องปาก และมีอาการเจ็บปวดในช่องท้อง โรคนี้ทำให้คนตายได้หากตรวจพบโรคช้า
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมปศุสัตว์ ได้ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค โดยสั่งการให้ ด่านกักกันสัตว์ตามแนวชายแดนไทย-ลาว เข้มงวดตรวจสอบการลักลอบนำเข้าโค กระบือ แพะ และแกะที่มีชีวิต รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้วย เตรียมความพร้อมด้านวัคซีนป้องกันโรค และขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ แพะ และแกะ ให้ดูแลสัตว์ของตนเองให้มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง และหมั่นสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงของตนเองอยู่เสมอ และขอย้ำให้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ผ่านการปรุงสุกและเป็นเนื้อสัตว์ที่ทราบแหล่งที่มาเท่านั้น
หากเกษตรกรหรือประชาชนทั่วไปพบ โค กระบือ แพะ แกะ แสดงอาการป่วยหรือตายผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุแบบเฉียบพลัน ห้ามเปิดผ่าซาก ห้ามเคลื่อนย้ายซาก หรือชำแหละเพื่อการบริโภค ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อาสาปศุสัตว์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่ หรือ ผ่านทาง Application DLD 4.0 หรือโทรศัพท์สายด่วน 063-225-6888 เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที