อัปเดต เงินเดือนข้าราชการ 2567 ขึ้นเงินเดือนข้าราชการครู ทั่วประเทศ
ล่าสุดอัปเดต เงินเดือนข้าราชการ 2567 เกาะติด ขึ้นเงินเดือนข้าราชการครู ทั่วประเทศ เช็กก่อนใครที่นี่
นับวันดีเดย์ เงินเดือนข้าราชการ 2567 ใหม่ โดยเฉพาะ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการครู ทั่วประเทศ "กรุงเทพธุรกิจ" เกาะติดต่อเนื่องมาตลอด
นับตั้งแต่ คณะรัฐมนตรี พิจารณารายงานผลการศึกษาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 เรื่องการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ การปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว และแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบราชการ ตามรายงานผลการศึกษาฯ ที่สำนักงาน ก.พ. นำเสนอ
2. มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการแต่ละประเภท รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการมีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมายและสอดคล้องตามหลักการดังกล่าวต่อไป
3. มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ. ประสานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รับหลักการและแนวทางการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนของข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น และพนักงานรัฐวิสาหกิจต่อไป
สำนักงาน ก.พ. เห็นควรรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ แนวทาง กรอบระยะเวลา และผลกระทบของการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ซึ่งได้รับความเห็นชอบร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แล้ว โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ
1.1 วัตถุประสงค์
เพื่อปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิการศึกษาให้มีความเหมาะสม สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล และสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่ระบบราชการ และเพื่อปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบซึ่งรับราชการอยู่ก่อนวันที่อัตราเงินเดือนแรกบรรจุใหม่มีผลใช้บังคับ
1.2 หลักการ
อัตราเงินเดือนแรกบรรจุมีความเหมาะสมและแตกต่างกันตามระดับคุณวุฒิ การศึกษา และอัตราเงินเดือนของผู้ที่รับราชการอยู่ก่อนจะต้องไม่น้อยกว่าผู้ที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่ โดยใช้คุณวุฒิระดับเดียวกัน และอัตราเงินเดือนหลังการปรับจะต้องไม่ทำให้ผู้ซึ่งเคยได้รับเงินเดือนสูงกว่า กลายเป็นผู้ได้รับเงินเดือนต่ำกว่าผู้ดำรงตำแหน่งประเภทและระดับเดียวกันที่บรรจุในวุฒิเดียวกัน ทั้งนี้ โดยไม่เป็นภาระงบประมาณมากจนเกินควร
1.3 เป้าหมาย
ปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิให้แตกต่างกันตามระดับคุณวุฒิการศึกษา โดยผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาตรีจะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับ ปวช. จะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 11,000 บาท ภายใน 2 ปี และปรับอัตราเงินเดือนของคุณวุฒิอื่น ๆ ให้สอดคล้องกัน รวมทั้งปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุดังกล่าวภายในช่วงระยะเวลาเดียวกันด้วย
1.4 แนวทางดำเนินการ
(1) การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ โดยทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิเพิ่มขึ้น (ทุกคุณวุฒิ) และแตกต่างกันตามระดับคุณวุฒิการศึกษา ภายใน 2 ปี โดยมีเป้าหมายการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิการศึกษา (คุณวุฒิหลัก) ดังนี้
คุณวุฒิปัจจุบันปีที่ 1 ปีที่ 2
- ปวช. 9,400 – 10,340 / 10,340 – 11,380 / 11,380 – 12,520
- ปวส. 11,500 – 12,650 / 12,650 – 13,920 / 13,920 – 15,320
- ปริญญาตรี 15,000 – 16,500 / 16,500 – 18,150 / 18,150 – 19,970
- ปริญญาโท 17,500 – 19,250 / 19,250 – 21,180 / 21,180 – 23,300
- ปริญญาเอก 21,000 – 23,100 / 23,100 – 25,410 / 25,410 – 27,960
(2) การปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 2 ครั้ง ให้มีผลใช้บังคับพร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุในปีที่ 1 และปีที่ 2 โดยปรับเงินเดือนชดเชยในแต่ละปีให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับราชการก่อนวันที่อัตราแรกบรรจุที่กำหนดใหม่มีผลใช้บังคับอย่างน้อย 10 ปี
1.5 กลุ่มเป้าหมาย
ครอบคลุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการรัฐสภาสามัญ พนักงานราชการ ข้าราชการในหน่วยธุรการของศาล ได้แก่ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ข้าราชการในสำนักงานขององค์กรอิสระและองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และข้าราชการธุรการอัยการ
1.6 การมีผลใช้บังคับ
ปีที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และปีที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568
1.7 ประมาณการงบประมาณ
การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ คาดว่าจะใช้งบประมาณในปีที่ 1 (12 เดือน) จำนวน 7,200 ล้านบาท และปีที่ 2 (12 เดือน) จำนวน 8,800 ล้านบาท โดยให้ส่วนราชการใช้จ่ายจากงบประมาณของแต่ละส่วนราชการเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือน และเงินปรับวุฒิข้าราชการในลำดับต่อไป
1.8 ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณา
กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทต่าง ๆ กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทนั้น ๆ ในการกำหนดอัตราเงินเดือนตามคุณวุฒิ เพื่อใช้ในการบรรจุและแต่งตั้ง (ยกเว้นกฎหมายว่าด้วยข้าราชการทหารให้กำหนดเป็นกฎกระทรวง) ดังนั้น เพื่อให้การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท บรรลุวัตถุประสงค์ หลักการ และเป้าหมายเดียวกัน โดยมีความเป็นธรรมไม่เหลื่อมล้ำกัน จึงเห็นควรให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภทนำเสนอคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิ และการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้ใช้งบประมาณ สำหรับการดำเนินการดังกล่าวต่อไป
2. การปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุในช่วงปี พ.ศ. 2555 กระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลางเห็นควรพิจารณาปรับเพดานเงินเดือนขั้นสูงที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จากเดิม เงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 13,285 บาท เป็น เงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท
และปรับเพดานชั้นต่ำของเงินเดือนรวมกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จากเดิม เดือนละ 10,000 บาท เป็น เดือนละ 11,000 บาท และปรับเงินเพิ่มการครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญขั้นต่ำ จากเดิม 10,000 บาท เป็น 11,000 บาท
ซึ่งการปรับเพดานเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวในครั้งนี้ จะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ทหารกองประจำการ และผู้รับบำนาญ และคาดว่าจะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นไม่เกิน 3,000 ล้านบาทต่อปี
โดยให้ส่วนราชการใช้จ่ายจากงบประมาณของแต่ละส่วนราชการเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง ต่อไป
อัปเดตล่าสุด เงินเดือนข้าราชการครู
กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมความพร้อมการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมามีการประชุมซักซ้อมการดำเนินการให้สามารถปรับเงินเดือนตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งรายละเอียดแต่ละหน่วยงานต้องมีข้อสรุปเรื่องของบุคลากรและจำนวนงบประมาณ เพื่อประสานกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และแจ้งสำนักงานงบประมาณในการขับเคลื่อนการปรับเงินเดือนขึ้น
ทั้งผู้บรรจุใหม่ที่จะได้รับในอัตรา 16,500 บาท ในปี 2567 และได้รับไม่น้อยกว่า 18,000 บาท ในปี 2568 ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ
พร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ โดยเน้นย้ำการดำเนินการให้ทันภายใน 1 พฤษภาคม 2567 ตามกรอบเวลาที่กำหนด ไม่ให้เกิดปัญหาตามมาย้อนหลัง
ต่อมา ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 3/2567 ซึ่งมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม ได้มีมติเห็นชอบการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ได้เห็นชอบแนวทางการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เสนอ
โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับการปรับอัตราเงินเดือนใหม่พร้อมกันในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 โดยจะแบ่งกลุ่มผู้ที่ได้รับการปรับอัตราเงินเดือนออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิ เป็นกลุ่มของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่บรรจุใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และ 1 พฤษภาคม 2568
กลุ่มที่ 2 การปรับเงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบ เป็นกลุ่มของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งอยู่ก่อนวันที่อัตราเงินเดือนแรกบรรจุใหม่มีผลใช้บังคับ (วันที่ 1 พ.ค. 67 และ 1 พ.ค. 68) และได้รับอัตราเงินเดือนไม่เกินอัตราสูงสุดที่กำหนดให้ได้รับการปรับเงินเดือนชดเชยในแต่ละคุณวุฒิ
สำหรับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิ จะทยอยปรับเพิ่มปีละ 10% ในปี 2567 และ 2568 และภายใน 2 ปี ผู้ที่บรรจุด้วยคุณวุฒิปริญญาตรีจะได้รับเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และปรับคุณวุฒิอื่น ๆ ให้สอดคล้อง ส่วนการปรับอัตราเงินเดือนชดเชยกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบ จะดำเนินการปรับอัตราเงินเดือนจำนวน 2 ครั้ง พร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ โดยปรับชดเชยเงินเดือนข้าราชการที่เข้ารับราชการก่อนวันที่อัตราเงินเดือนแรกบรรจุที่กำหนดใหม่มีผลใช้บังคับ และมีฐานเงินเดือนต่ำกว่าอัตราเงินเดือนแรกบรรจุที่กำหนดใหม่
โดยหลังจากนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ. จะดำเนินการแจ้งอัตราเงินเดือนใหม่พร้อมหลักเกณฑ์และวิธีการฯที่เกี่ยวข้องไปยังส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
ทั้งนี้ จะประกาศข้อมูลตัวเลขอัตราเงินเดือนใหม่ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทราบ พร้อมกับการแจ้งปรับเงินเดือนข้าราชการพลเรือนของสำนักงาน ก.พ. ภายในเดือนเมษายน 2567
การปรับอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง และการปรับเงินเดือนชดเชย ผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรองของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการปรับเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับอัตราเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สามารถดำเนินการได้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566
ที่ประชุมก.ค.ศ. จึงมีมติเห็นชอบ
(ร่าง) การกำหนดอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และ (ร่าง) บัญชีอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง เพื่อประโยชน์ในการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
(ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดอัตราเงินเดือนและจำนวนเงินที่ได้ปรับ ตามคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง (การปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุใหม่) และ (ร่าง) บัญชีอัตราเงินเดือนและจำนวนเงินที่ได้ปรับตามคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง
โดยการดำเนินการดังกล่าว ให้มีผลใช้บังคับวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 สำหรับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิ จะทยอยปรับเพิ่มปีละ 10% ในปี 2567 และ 2568 และภายใน 2 ปี ผู้ที่บรรจุด้วยคุณวุฒิปริญญาตรีจะได้รับเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และปรับคุณวุฒิอื่น ๆ ให้สอดคล้อง และจะปรับอัตราเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุใหม่ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 2 ครั้ง พร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ โดยปรับชดเชยเงินเดือนข้าราชการที่เข้ารับราชการก่อนวันที่อัตราเงินเดือนแรกบรรจุที่กำหนดใหม่มีผลใช้บังคับและมีฐานเงินเดือนต่ำกว่าอัตราเงินเดือนแรกบรรจุที่กำหนดใหม่
สำหรับการเปิดเผยตัวเลข สำนักงาน ก.ค.ศ. จะดำเนินการแจ้งให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ พร้อมกับการแจ้งปรับเงินเดือนข้าราชการพลเรือนของสำนักงาน ก.พ. ภายในเดือนเมษายน 2567
เงินเดือนข้าราชการ 2567 อัปเดตจากรัฐบาล
ความคืบหน้าและความพร้อมในการเตรียมตัวปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) มีความพร้อม โดยได้ดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ รวมทั้งได้มีการหารือและประสานงานกับสำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ขอให้ข้าราชการมั่นใจได้ว่าการปรับขึ้นเงินเดือนครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแน่นอน
หลังที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 มีมติอนุมัติปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีเป้าหมายให้ผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาตรีจะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับ ปวช. จะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 11,000 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี
ทั้งนี้ เป้าหมายเป็นการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิ โดยทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิเพิ่มขึ้น (ทุกคุณวุฒิ) และแตกต่างกันตามระดับคุณวุฒิการศึกษา ภายใน 2 ปี (ปีที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 67 และปีที่ 2 วันที่ 1 พ.ค. 68) รวมทั้งมีการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 2 ครั้ง ให้มีผลใช้บังคับพร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุในปีที่ 1 และปีที่ 2 โดยปรับเงินเดือนชดเชยในแต่ละปีให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับราชการก่อนวันที่อัตราแรกบรรจุที่กำหนดใหม่มีผลใช้บังคับประมาณ 10 ปี
การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุข้าราชการนั้นเป็นไปตามความเหมาะสม คำนึงถึงสถานการณ์โลกและความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต และจะส่งผลให้ความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิต รวมทั้งเพื่อรักษาและดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพและศักยภาพเข้าสู่ระบบราชการ ซึ่งจะเสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบราชการไทยต่อไป ในวันนี้ที่เป็นวันข้าราชการพลเรือน ปี พ.ศ. 2567 จึงขอชวนเคาท์ดาวน์ นับถอยหลัง 1 เดือนสู่ข่าวดีของข้าราชการทุกคน
อัตราเงินเดือนแรกบรรจุรับราชการ
การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ การปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ การปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว และแนวทางปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบราชการ ตามที่ สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้
การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ : ทยอยปรับตามคุณวุฒิ ภายใน 2 ปี
ปวช.
ปัจจุบัน : 9,400 – 10,340
ปีที่ 1 : 10,340 – 11,380
ปีที่ 2 : 11,380 – 12,520
ปวส.
ปัจจุบัน : 11,500 – 12,650
ปีที่ 1 : 12,650 – 13,920
ปีที่ 2 : 13,920 – 15,320
ป.ตรี
ปัจจุบัน : 15,000 – 16,500
ปีที่ 1 : 16,500 – 18,150
ปีที่ 2 : 18,150 – 19,970
ป.โท
ปัจจุบัน : 17,500 – 19,250
ปีที่ 1 : 19,250 – 21,180
ปีที่ 2 : 21,180 – 23,300
ป.เอก
ปัจจุบัน : 21,000 – 23,100
ปีที่ 1 : 23,100 – 25,410
ปีที่ 2 : 25,410 – 27,960
การปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ
จำนวน 2 ครั้ง ให้มีผลใช้บังคับพร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุในปีที่ 1 และปีที่ 2 โดยปรับเงินเดือนชดเชยในแต่ละปีให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับราชการก่อนวันที่อัตราแรกบรรจุที่กำหนดใหม่มีผลใช้บังคับอย่างน้อย 10 ปี
กลุ่มเป้าหมาย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการรัฐสภาสามัญ พนักงานราชการ ข้าราชการในหน่วยธุรการของศาล ได้แก่ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ข้าราชการในสำนักงานขององค์กรอิสระและองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และข้าราชการธุรการอัยการ
มีผลใช้บังคับ
ปีที่ 1 : ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567
ปีที่ 2 : ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568
การปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว
เพดานเงินเดือนขั้นสูงที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว
จากเดิม เงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 13,285 บาท เป็น ไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท
ปรับเพดานขั้นต่ำของเงินเดือนรวมกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว
จากเดิม เดือนละ 10,000 บาท เป็น เดือนละ 11,000 บาท
ปรับเงินเพิ่มการครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญขั้นต่ำ
จากเดิม 10,000 บาท เป็น 11,000 บาท
แนวทางปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบราชการ
- บริหารจัดการอัตรากำลังเพื่อเร่งรัดการเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยยุบเลิกตำแหน่งว่างจากการเกษียณในสายงานสนับสนุน (เฉพาะตำแหน่งที่สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้แทนได้) เป็นระยะเวลา 3 ปีต่อเนื่อง ควบคู่กับการดำเนินการตาม Digital Transformation Plan
- บริหารจัดการอัตรากำลังข้าราชการที่ไปช่วยราชการ โดย ครม. อาจมีมติเป็นหลักการให้ทบทวน หรือ ยกเลิก การช่วยราชการทั้งหมด และต่อไปหากมีความจำเป็นต้องขอยืมตัวข้าราชการให้เสนอขออนุมัติต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง เช่น ปลัดกระทรวง เพื่อพิจารณาเป็นการเฉพาะราย
- เชื่อมโยงฐานข้อมูลข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเป็นมาตรการเชิงบังคับให้ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐเชื่อมโยงฐานข้อมูลกำลังคนกับระบบ DPIS Center ของสำนักงาน ก.พ. เพื่อประโยชน์ในการวางแผน ติดตาม ตลอดจนเกลี่ยอัตรากำลังไปยังภารกิจที่มีความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วน
- พัฒนาระบบค่าตอบแทนภาครัฐในระยะต่อไป ให้เหมาะสม เป็นธรรม สอดคล้องกับสภาวการณ์ และสะท้อนถึงผลการปฏิบัติงานที่แท้จริง เพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน โดยคำนึงถึงความยั่งยืนทางการคลังของประเทศและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
อ้างอิง - รัฐบาลไทย , กระทรวงศึกษาธิการ