ขอทางให้รถฉุกเฉิน นำ ด.ต.ปิยนันท์ จากลพบุรี ส่งต่อ รพ.ตำรวจ 10 โมงเช้าวันนี้

จากเกิดเหตุ"สาวขับเก๋งชนตำรวจทางหลวง" ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ ผบ.ส.ทร.3 กก.1บก.ทร. ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรอยู่ที่หมู่ 4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี บาดเจ็บสาหัส ยังไม่พ้นขีดอันตราย เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

ล่าสุด มีรายงานว่า 10 โมงเช้าวันนี้ ขอทางให้รถฉุกเฉิน นำตำรวจทางหลวง "ด.ต.ปิยนันท์" จากลพบุรี ส่งต่อไปยัง รพ.ตำรวจ โดยเพจอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรีจุดนิคมสร้างตนเอง ประชาสัมพันธ์ขอสนับสนุนในเส้นทาง เคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ ผู้ป่วยฉุกเฉิน ในวันที่ 18 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น. ขบวนรถจำนวน 4 คัน เดินทางจากโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช มุ่งหน้าถนนสายเอเชีย ถนนพหลโยธิน และทางด่วนดอนเมือง ปลายทาง รพ.ตำรวจ

ขณะที่ตำรวจทางหลวงแจ้งว่า จะใช้เส้นทางต่างระดับสิงห์บุรีใต้ ออกถนนสายเอเชีย ขึ้นโทลล์เวย์โรงกษาปณ์ ลง ถ.ดวงพิทักษ์ เข้า ถ.เพลินจิต ถึง รพ.ตำรวจ เวลาประมาณ 12.00 น. 
 

โดยวานนี้ 17 เมษายน 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ ขอรับบริจาคเลือด กรุ๊ป A ให้กับ ด.ต.ปิยะนันท์ สีเสื้อ ตำรวจทางหลวง ซึ่งถูกรถชนขณะปฏิบัติหน้าที่ ท่านใดประสงค์จะบริจาค เชิญได้ที่ ร.พ.พระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี แจ้งบริจาคให้ ด.ต.ปิยะนันท์ สีเสื้อ 

 

ลำดับเหตุการณ์สาวขับเก๋งชนตำรวจทางหลวง ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ

โดยช่วงเย็นวานนี้ 16 เมษายน 2567 เกิดเหตุ สาวขับเก๋งชนตำรวจทางหลวง ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ ผบ.ส.ทร.3 กก.1บก.ทร. ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรอยู่ที่หมู่ 4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน 

 

ในขณะที่เวลา 22.00 น. ทาง โรงพยาบาลตำรวจ ได้นำ เฮลิคอปเตอร์ มารับ ด.ต.ปิยนันท์ ที่โรงพยาบาลพัฒนานิคม เพื่อนำไปรักษาตัว แต่เพียงแค่ 3 นาทีก็ต้องนำกลับมาส่งที่เดิม

เหตุผลเปลี่ยนแผนนำตัว ด.ต.ปิยนันท์ ขึ้น ฮ. เพียง 3 นาที แต่ต้องนำกลับมาส่งที่เดิม

โดยให้เหตุผลว่า ความสูงมีผลกับเลือดออกในสมอง ทางแพทย์พยาบาลตัดสินใจให้นำ เฮลิคอปเตอร์ กลับมาส่งที่เดิม เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยคาดว่าจะต้องนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลตำรวจโดยรถยนต์แทน

ทีมแพทย์ได้ประเมินเบื้องต้นว่า ด.ต.ปิยนันท์ เสียเลือดมาก และมีภาวะสมองบวม ถือเป็นอาการที่มีความรุนแรงมาก หากไม่รับการรักษาอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต เสียชีวิตได้ หรือหากรับการรักษาช้าเกินไป ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวตามมา ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดด่วน

เบื้องต้นได้ให้ยากระตุ้น เพื่อให้ชีพจรและความดันกลับมาคงที่ แต่ต้องดูอาการหลังการผ่าตัดอีกครั้ง และยังคงต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่พ้นขีดอันตราย

ขณะที่ สาว ซึ่งเป็นคนขับ รถเก๋ง คันที่ชน ด.ต.ปิยนันท์ ได้ถูกควบคุมตัว หลังจากที่พุ่งชนรถไม่สามารถไปต่อได้ เจ้าหน้าที่พาไปสอบปากคำและดำเนินคดีทันที 

 

 

สาเหตุสาวขับเก๋งชนตำรวจทางหลวง 

ส่วนสาเหตุที่ขับมาชน ด.ต.ปิยนันท์ นั้นเป็นเพราะในช่วงนั้นเป็นช่วง "ตำรวจทางหลวง" ขยับช่องทางเพื่อให้รถวิ่งโดยสะดวก

แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางคอขวด และช่วงนั้น ด.ต.ปิยนันท์ ยืนคอยโบกรถอยู่ สาวรายนี้จึงขับมาชนอย่างแรงจนทำให้ ด.ต.ปิยนันท์ บาดเจ็บสาหัส

ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ ตำรวจทางหลวง หน่วยเคลื่อนที่เร็ว

สำหรับ ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ เป็น "ตำรวจทางหลวง" ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วเมื่อยามคับขัน ตรงการจราจรติดขัดก็จะรีบไปอำนวยความสะดวกทันที เพราะวันนี้เป็นวันที่ นักท่องเที่ยว ก็ลังจะเดินทางกลับภูมิลำเนา รถติดขัดหนาแน่นมากช่วงถนนสายสระบุรี - หล่มสัก