จับอีก! บัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเจ้าหน้าที่ กสทช. หลอกโอนเงิน สูญ 6 แสน

จับอีก! บัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเจ้าหน้าที่ กสทช. หลอกโอนเงิน สูญ 6 แสน

สืบนครบาล จับกุมสาว บัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ กสทช. หลอกผู้เสียหายมีเงินในบัญชีพัวพันการฟอกเงิน สูญกว่า 600,000 บาท

จับอีก บัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 สืบนครบาล จับกุมตัว น.ส.สมร (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี บุคคลตามหมายจับ 1.เป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2616/2566 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น"

 

 

และ 2.ตรวจสอบพบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.706/2565 ลง 30 พ.ย.65 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแกประชาชน" โดยถูกจับกุมได้ที่หน้าบ้านพัก หมู่ที่ 3 ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

 

พฤติการณ์การก่อเหตุมาจาก ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ กสทช. ข่มขู่ว่าผู้เสียหายมีเงินในบัญชีธนาคารพัวพันกับการฟอกเงิน จึงให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อทำการตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย 5 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 600,000 บาท

 

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ไปเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯแล้วทำกระเป๋าหาย ในกระเป๋ามีสมุดบัญชี บัตรเครดิตบัตรเอทีเอ็ม บัตรประชาชน โทรศัพท์ แต่ไม่ได้ไปแจ้งความ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ฝากเตือนไปยังผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า หรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร มีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ โดยตามกฎหมายมาตรา 9 พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ระบุว่า การรับจ้างเปิดบัญชีหรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร บัตร ATM หรือ E-wallet เพื่อใช้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

หรือหากยอมให้ผู้อื่นเอาบัญชีธนาคารหรือซิมโทรศัพท์ไปใช้เพื่อกระทำผิดความผิด ตัวเจ้าของบัญชีจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท และหากอาสาเป็นธุระจัดหาเพื่อให้มีการซื้อขายบัญชีธนาคารหรือซิมโทรศัพท์ให้ผู้อื่นไปใช้ในการกระทำผิด จะมีโทษจำคุก 2 - 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 - 500,000 บาท

 

ผลการปฏิบัติโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ, พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ, พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ, พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 ดำเนินการ