เปิดตัว ‘ทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์’ ลงสมัครกรรมการชุมนุมสหกรณ์การบินไทย ปี 67

เปิดตัว ‘ทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์’ ลงสมัครกรรมการชุมนุมสหกรณ์การบินไทย ปี 67

เปิดตัว “ทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์” ลงสมัครกรรมการชุมนุมสหกรณ์ ขออาสาเป็นตัวแทนแก้กฎระเบียบสหกรณ์ที่ล้าหลัง พร้อมชู 5 นโยบาย 3 ลด 1 เพิ่ม 1 ฟรี   ด้าน “นินนาท”ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย 1 ในทีม ขอสมาชิกเลือกยกทีมไปลุยสะสางปัญหา ย้ำช่วยเหลือพันธมิตรได้แน่

นายนินนาท พัฒนวิบูลย์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตนเองได้ร่วมลงสมัครกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (ชสอ.)ประจำปี 2567  ในนามทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์  ที่นำโดย รองศาสตราจารย์พิเศษพลโท ดร.วีระ วงศ์สรรค์ ประธานชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (ชสอ.)    ซึ่งกำหนดวันรับสมัครในวันที่ 21 เมษายนนี้ 

เปิดตัว ‘ทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์’ ลงสมัครกรรมการชุมนุมสหกรณ์การบินไทย ปี 67

สำหรับ ทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์  ที่ลงสมัครกรรมการในครั้งนี้ มีทั้งหมด 8 ท่าน ประกอบด้วย 
1นายนินนาท พัฒนวิบูลย์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด 
2 นายชาติชาย โรจนรัตนางกูร ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจำกัด 


3 พ.ต.ต.สุวิทย์ มากด้วง ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจสุราษฎร์ธานีจำกัด ประธานชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภาคใต้
4 นายต่อศักดิ์ ยุทธรัตน์ รองประธานสหกรณ์ออมทรัพย์เสมาธรรมจักรอุดรธานี จำกัด


5 นายพิมพ์ลักษณ์ อยู่วัฒนา รองประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขสมุทรสงคราม จำกัด
6 นายศิริวัฒน์ อินทรมงคล รองประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมปศุสัตว์ จำกัด 
7 นายธงชัย วิทยานุกูล รองประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สหยูเนี่ยน จำกัด
8 พล.ต.กริช กิติลือ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูนจำกัด

นายนินนาท กล่าวว่า สำหรับกลุ่มรวมพลังรักษ์สหกรณ์ได้ก่อมาตั้งนานแล้ว ตนเองได้ตัดสินใจเข้ามาลงสมัครกรรมการชุมนุมสหกรณ์ครั้งนี้เกิดจากการที่ได้เดินทางไปร่วมจัดงานเสวนาที่จังหวัดขอนแก่น โดยที่นายบุญสิงห์   วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปเป็นประธานเปิดงาน เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา และมีนายเอกราช ช่างเหลา สส.พรรคภูมิใจไทย จ.ขอนแก่น  ร่วมงานในครั้งนั้น และได้แลกเปลี่ยนพูดคุยถึงการที่จะดำเนินการแก้ไข ปรับเปลี่ยนร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ฯปี42ที่ใช้มานานมากแล้วพร้อมทั้ง กฎกระทรวงต่างๆเพื่อทำให้สหกรณ์สามารถดำเนินงานได้ตามหลักการสหกรณ์และสอดคล้องกับ สถานการณ์ ในปัจจุบัน

พร้อมทั้งการแก้ไขข้อบังคับ กฎระเบียบของชุมนุมสหกรณ์ ต่างๆที่ยังไม่พัฒนาให้ได้รับแก้ไข หลังจากที่ได้จัดงานเสวนาได้เห็นปัญหาของพันธมิตรสหกรณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กฎระเบียบต่างๆ ที่ยังล้าสมัย ทำให้ตนเองตัดสินใจเข้ามาร่วมทีม ชสอ. ซึ่งถือเป็นแม่ข่ายหลักที่จะสามารถดำเนินการแก้ไขผลักดันนโยบายต่างๆโดยเฉพาะนโยบายเรื่องอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือสหกรณ์



 

โดย นายนินนาท กล่าวว่ากลุ่มรวมพลังรักษ์สหกรณ์ ชูนโยบาย 5 ข้อ ที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ ประกอบด้วย 3 ลด 1 เพิ่ม 1 ฟรี  โดยนโยบาย 3 ลด  คือ  1 ลดดอดเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 3 %  2 ปรับลดโบนัสของคณะกรรมการคิดจากเปอร์เซ็นต์เงินปันผล เพราะมองแล้วว่าคณะกรรมการควรจะได้รับโบนัสตามสัดส่วนที่เหมาะสมเช่นหากมีการปันผลสมาชิก 1% ก็จะได้รับเงินโบนัส 100,000 บาท ปันผล 5% ก็ได้ 500,000 ก็ขึ้นอยู่กับอัตราเงินปันผลที่สมาชิกจะได้รับและผลประกอบการในปีนั้นๆ  และ 3 ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น  ส่วนนโยบาย 1 เพิ่ม คือ ชุมนุมสหกรณ์ที่ในภาคต่างๆมีงบประมาณอยู่ที่ 1,000,000 ล้านบาทต่อปี จะเพิ่มให้เป็น 1,500,000 บาทต่อปี ขณะที่นโยบาย 1 ฟรี คือ การจัดสัมมนาที่จัดโดยชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทย ทุกสหกรณ์และทุกเวทีสัมมนา สามารถเข้าร่วมสัมมนาฟรีเพื่อให้ทุกคนได้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างเท่าเทียม


พร้อมกันนี้นายนินนาท ย้ำจุดแข็งทีมรวมพลังรักษ์สหกรณ์ คือมีพันธมิตรสหกรณ์ที่หลากหลาย สาขาอาชีพมารวมตัวกัน
ทั้ง ประธาน ฯพลโทดร. วีระ วงศ์สรรค์ อดีตข้าราชการทหาร /นายชาติชาย โรจนรัตนางกูร พนักงานรัฐวิสาหกิจ /พ.ต.ต.สุวิทย์ มากด้วง ข้าราชการตำรวจพื้นที่ภาคใต้/
นายต่อศักดิ์ ยุทธรัตน์ ข้าราชการครู /นาย นินนาท พัฒนวิบูลย์   สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทยจำกัด  

นายพิมพ์ลักษณ์ อยู่วัฒนา  จากสาธารณสุขและโรงพยาบาล
/นายศิริวัฒน์ อินทรมงคล ข้าราชการ  นายธงชัย วิทยานุกรณ์  จากสถานประกอบการ และพล.ต.ต.กริช กิติลือ ข้าราชการตำรวจเขตพื้นที่ภาคเหนือ
ซึ่งถือเป็นเครือข่ายที่สามารถจะเข้าใจถึงบริบทพันธมิตรสหกรณ์  โดยเฉพาะสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อน 

“การแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ เหล่านี้ต้องพูดคุย เพื่อทำให้ทุกอย่างเดินได้อย่างถูกต้องและเป็นสิ่งที่ทำให้สมาชิกยอมรับได้  โดยการแก้ไขข้อบังคับสหกรณ์ทางชุมนุมสหกรณ์ต้องใช้เสียง2ใน 3 ของสมาชิกพันธมิตรสหกรณ์เพื่อให้ข้อบังคับต่างๆสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขให้เป็นไปตามบริบทที่ตั้งเจตนารมณ์ไว้ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกยกทีม เพื่อเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกันนโยบายจะขับเคลื่อนได้ต้องได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนพันธมิตร ซึ่งหากได้รับเลือกจะเริ่มดำเนินการทันทีและนี่ถือเป็นสัญญาที่ให้ไว้” นายนินนาทกล่าว