จับ 'ครู' สักคิ้วเสริมดวง โกงเงินหุ้นส่วนธุรกิจ ร้านเสริมสวย คดีฉ้อโกงอื้อ
ตำรวจบุกจับ 'ครูสาว' สอนสักคิ้วเสริมดวง โกงเงินหุ้นส่วนธุรกิจ ร้านเสริมสวย เผยหมายจับคดีฉ้อโกงอื้อ
กรณีตำรวจบุกจับ 'ครูสาว' สอนสักคิ้วเสริมดวง โกงเงินหุ้นส่วนธุรกิจ ร้านเสริมสวย เผยหมายจับอื้อ ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์
จนพบเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งถูกมิจฉาชีพในคราบช่างสักคิ้วระดับครู ย่านห้วยขวางตีสนิท หลอกให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์สักคิ้ว สักปาก ก่อนเชิดเงินหนีหายกว่าแสนบาท โดยมีผู้เสียหายอีกหลายรายถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ทราบข้อมูลว่า ณ ปัจจุบันผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวมีหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีในท้องที่ สน.ห้วยขวาง อยู่ 1 หมายจับ ซึ่งผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนีการสืบสวนจับกุม
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เมื่อเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากการรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. เร่งรัดให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
ต่อมาวันที่ 22 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ สืบนครบาล ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม น.ส.ปารย์พิชชา หรือ ครูเค อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 933/2565 ลงวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้าน ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอย 2 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ.
.
ในชั้นจับกุม น.ส.ปารย์พิชชา หรือครูเค ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าตนเรียนจบการศึกษาระดับ ปวส. จากสถานบันแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.มหาสารคาม
เดิมทีตนมีกิจการเปิดร้านเสริมสวยเป็นของตนเองในหลายพื้นที่ ทั้งในพื้นที่ จ.มหาสารคาม และในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จนช่วงประมาณปี 2556 ตนได้ไปเรียนวิชาสักคิ้วกับอาจารย์ชื่อดังย่านดอนเมือง จนจบหลักสูตร ออกมาเปิดร้านสักคิ้วย่านดอนเมืองประมาณ 2 ปี ก่อนจะย้ายไปเปิดร้านสอนสักคิ้วแถวร่มเกล้า
ก่อนจะมาเปิดร้านร่วมกันน้องที่รู้จักในย่านห้วยขวาง ซึ่งร้านนี้ตนเปิดแบบครบวงจรทั้งร้านเสริมสวย รับสักคิ้ว รับสอนสักคิ้วสักปากแดง ด้วยจนมีชื่อเสียงในย่านนั้น จนมีผู้สนใจมาร่วมลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์สักคิ้วสักปากต่างๆ
แต่เนื่องจากตนประสบปัญหาทางการเงิน ประกอบกับช่วงนั้นสถานการณ์โรคโควิดระบาดอย่างรุนแรง จึงส่งผลให้ธุรกิจล่ม ตนจึงขาดการติดต่อกับผู้เสียหายซึ่งร่วมลงทุน เป็นเหตุให้ถูกแจ้งความร้องทุกข์ ก่อนจะรู้ว่าตนเองมีหมายจับจึงได้หลบหนีไปอยู่บ้านพักของนายจ้างของแฟน ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมา พบว่า น.ส.ปารย์พิชชา มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย
- ปี 2555 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.เมืองมหาสารคาม
- ปี 2556 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.เมืองมหาสารคาม
- ปี 2557 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ลักทรัพย์ ” ท้องที่ สน.ประเวศ
- ปี 2565 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 933/2565 ลงวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สน.ห้วยขวาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.ปารย์พิชชา ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ