กปภ. ยันไฟไหม้โกดังสารเคมี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่กระทบคุณภาพน้ำประปา
กปภ. ห่วงอัคคีภัยเกิดบ่อยครั้ง สั่งการพร้อมช่วยเหลือประชาชน ยืนยันเหตุการณ์โกดังสารเคมี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่กระทบคุณภาพน้ำประปา
นายจักรพงศ์ คำจันทร์ รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 2) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดเหตุอัคคีภัยขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากประเทศไทยเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรงส่งผลให้สภาพอากาศร้อนจัดอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำชับให้ กปภ. 234 สาขาทั่วประเทศ เฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัยในพื้นที่สำนักงานและสถานีผลิตน้ำอย่างใกล้ชิดไม่ให้กระทบต่อการให้บริการน้ำประปา ตามที่ได้มีฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ เป็นประจำทุกปี
รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือหากเหตุอัคคีภัย โดยตรวจสอบสภาพหัวจ่ายน้ำดับเพลิง (Fire Hydrant) ในพื้นที่ทุกจุดให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในท้องถิ่นทดสอบการทำงานของหัวจ่ายน้ำดับเพลิง และดูแลทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบจุดติดตั้งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำท่อดับเพลิงเชื่อมต่อกับหัวจ่ายน้ำดับเพลิงได้ง่ายและสะดวก สามารถระงับอัคคีภัยได้ทันท่วงทีเป็นการลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุอัคคีภัยกับบ้านเรือน ขอแนะนำให้ประชาชนเก็บวัสดุอุปกรณ์ที่ติดไฟง่าย อาทิ กระดาษ พลาสติก บรรจุภัณฑ์ที่บรรจุสารเคมีต่าง ๆ ไว้ในที่มิดชิด ไม่ให้ถูกแสงแดดหรือได้รับความร้อนเพราะอาจกลายเป็นเชื้อเพลิง และควรสังเกตจุดติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่มีอยู่ในชุมชนเพื่อให้สามารถแจ้งพิกัดแก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ โดยไม่นำสิ่งของมาวาง สร้างสิ่งปลูกสร้างหรือจอดรถกีดขวางบริเวณจุดติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง และหากพบเห็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงชำรุดเสียหาย สามารถแจ้งรายละเอียดเพื่อดำเนินการซ่อมแซมให้ใช้งานได้ตามปกติ ได้ที่ กปภ.สาขาในพื้นที่ หรือ PWA Contact Center 1662 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายวีรพันธ์ มีนะพงษ์ ผู้จัดการ กปภ.สาขาท่าเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้โกดังสารเคมีร้าง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา กปภ.สาขาท่าเรือ ได้เร่งให้ความช่วยเหลือเทศบาลภาชีโดยจ่ายน้ำประปาผ่านหัวจ่ายน้ำดับเพลิงเพื่อควบคุมเพลิงให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งยืนยันว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาและคุณภาพน้ำของ กปภ. ที่จ่ายให้บริการประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากสถานีผลิตน้ำประปารับน้ำดิบจากคลองระพีพัฒน์ซึ่งอยู่ห่างจุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม กปภ. ยังคงเฝ้าระวังคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการใช้น้ำประปาในการอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ นอกจากนี้ ได้นำน้ำบรรจุขวดตราสัญลักษณ์ กปภ. ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ณ โรงพยาบาลสนามโรงพยาบาลภาชีและศูนย์อพยพ ณ วัดโคกม่วง ต.โคกม่วง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา