Lane Block 'ราชประสงค์โมเดล' ลดจำนวนแท็กซี่-ตุ๊กตุ๊กฝ่าฝืนจอดแช่กว่า 90%
กทม. อัปเดต Lane Block 'ราชประสงค์โมเดล' ลดจำนวนแท็กซี่-ตุ๊กตุ๊กฝ่าฝืนจอดแช่กว่า 90% เล็งติดตั้งเพิ่มย่านท่องเที่ยวทั่วกรุงฯ แก้ปัญหาจราจร
วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น. กรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยหน่วยงานภาคีทั้งภาครัฐและเอกชน แถลงข่าวความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนราชดำริ ตามโครงการ 'ราชประสงค์โมเดล' ซึ่งเป็นโครงการนำร่องบูรณาการความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการจราจรและปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ ณ At work ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมทั้งนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาบริเวณถนนราชดำริทั้งสองฝั่ง จากนั้นชมจุดบริการรถแท็กซี่และจุดปักหมุดของรถบริการผ่านแอปพลิเคชันที่ศูนย์การค้าฯ จัดเตรียมไว้รองรับด้วย
พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ย่านราชประสงค์เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ แหล่งทำการค้า แหล่งท่องเที่ยว และจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีปัญหาที่สะสมมายาวนาน ปัญหาหลักคือการจราจรที่ติดขัดเนื่องจากรถรับจ้างสาธารณะ แท็กซี่ และสามล้อส่วนหนึ่งที่จอดรถแช่ เพื่อรอรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวบริเวณช่องซ้ายสุดทั้งสองฝั่งของถนนราชดำริ จนผู้ที่ใช้บริการรถโดยสาร-สาธารณะทั่วไปต้องเสี่ยงลงไปในเลนที่ 2 เพื่อขึ้นรถประจำทางที่ไม่สามารถเข้าป้ายได้ เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยตามมา
นอกจากนี้ กรณีรถแท็กซี่และสามล้อที่เรียกราคาแบบเหมาจ่าย การไม่กดมิเตอร์ ก็เป็นอีกปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วน เพราะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครเป็นอย่างมาก กรุงเทพมหานครจึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้ประกอบการย่านราชประสงค์และผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านแอปพลิเคชัน จำนวน 10 บริษัท ร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง
'การป้องกัน คือ การปราบปรามที่ดีที่สุด ดังนั้นการป้องกันคือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุด ของทุกหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการป้องกันต้องทำบนฐานข้อมูลและสถิติที่ชัดเจน ซึ่งในอนาคต กทม. จะเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน อาทิ การติดกล้องเพื่อทราบวงจร ของผู้ขับรถรับจ้างที่จอดแช่หรือไม่กดมิเตอร์ ข้อมูลของผู้ที่ชอบฝ่าฝืนกฎจราจร และขยายผลในการแก้ไขปัญหาจราจร สู่ถนนราชดําริต่อเนื่องถนนพระรามที่ 1 ไปจนถึง Siam square ถนนพระรามที่ 1 ไปจนถึงแยกเพลินจิต ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ทั้ง 2 ฝั่ง และจุดที่มีเรื่องร้องเรียน หรือมีปัญหาการจราจรจนส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยว เช่น แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ วัดโพธิ์ Central ลาดพร้าว ตลาดนัดจตุจักร ตรงข้ามเดอะมอลล์ บางแค สุขุมวิทช่วงนานา ถึง อโศก เป็นต้น'
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงกายภาพของพื้นที่ ได้แก่
- การจัดทำเครื่องหมายพื้นทาง Bus Stop ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการจอดรถแช่กีดขวางจุดจอดรับส่งผู้โดยสาร, การปรับเปลี่ยนเกาะสีสมมุติให้เป็นช่องจราจรเพื่อเพิ่มช่องการจราจรขึ้นอีก 1 ช่องจราจร
- ปรับปรุงรั้วกันคนข้าม (สีเขียว) เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวเดินข้ามถนนในจุดที่มิใช่ทางข้ามหรือเรียกรถนอกจุดที่กำหนดไว้
- การยุบรวมป้ายหยุดรถประจำทาง ให้เหลือเพียง 1 ป้าย เพื่อป้องกันการสับสนในการใช้บริการและลดปัญหาการจราจร พร้อมทั้งขยายแนวรั้วให้กว้างขึ้นรองรับผู้ใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น
- ติดตั้งป้ายห้ามกลับรถ และการติดตั้งอุปกรณ์แบ่งช่องจราจร (Lane Block) ดำเนินการติดตั้ง Lane Block ระยะทางกว่า 500 เมตร บนถนนราชดำริทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก เพื่อให้รถโดยสารประจำทางสามารถเข้ามารับ-ส่งผู้โดยสาร ได้อย่างสะดวกและเกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการ
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการจราจรและขนส่ง ได้มีการติดตั้งกล้อง CCTV ซึ่งประมวลผลด้วยระบบ AI เก็บข้อมูลรถที่ฝ่าฝืนจอดในพื้นที่ห้าม โดยกำหนดขอบเขตพื้นที่ห้ามจอด หากพบรถที่จอดแช่เกินระยะเวลาที่ระบบได้กำหนดไว้ถือว่าได้กระทำผิด และมีรูปแบบการรายงานผลแสดงวัน เวลา และสถานที่ในการฝ่าฝืนจอดอย่างละเอียด สามารถจับภาพข้อมูลหมายเลขทะเบียนรถได้อย่างชัดเจน
โดยข้อมูลที่ได้จากกล้อง CCTV จะถูกส่งไปยัง สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักเทศกิจ สำนักงานเขต กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานีตำรวจพื้นที่ กรมการขนส่งทางบก เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
โดยพบว่าก่อนติดตั้ง Lane Block มีรถที่ฝ่าฝืนจอดในช่องทางซ้ายจำนวน 489 คัน/วัน และหลังการติดตั้ง Lane Block พบรถที่กระทำผิดลดลง เหลือเพียง 45 คัน/วัน
ขณะนี้ยังคงพบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวบางส่วน ยังเรียกใช้บริการรถแท็กซี่และสามล้อบริเวณหน้าศูนย์การค้าบนถนนราชดำริทั้งสองฝั่ง ทำให้ยังมีรถที่ฝ่าฝืนจอดแช่รอรับผู้โดยสาร และผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปยังคงสับสนและไม่กล้าใช้ช่องทางที่มีการติดตั้ง Lane Block เนื่องจากคิดว่าเป็นช่องรถประจำทางเท่านั้น จึงใช้ช่องทางอื่นๆ แทน ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ กรุงเทพมหานครจึงได้ดำเนินการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ แจ้งจุดจอดให้บริการรถแท็กซี่และรถสามล้อในพื้นที่ของศูนย์การค้า โดยจัดทำในรูปแบบ 3 ภาษา (ไทย-อังกฤษ-จีน) ติดตั้งบริเวณจุดจอดรถโดยสารประจำทางทั้งสองฝั่ง และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปได้ทราบว่า ช่องทางซ้ายรถทุกประเภทสามารถเข้าใช้ได้ตามปกติ เพียงแต่ไม่สามารถจอดแช่ได้ อีกทั้งได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบโพสต์ วิดีโอคลิป และ Infographic เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้บูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งได้ประชุมและลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรร่วมกัน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน
ในส่วนของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้ความร่วมมือและพร้อมทำงานร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ในการบังคับใช้กฎหมายและมีบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิด โดยจะเพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันวินัยจราจรและมาตรการลงโทษตามกฎหมายแก่ผู้กระทำผิดฝ่าฝืนจอดในพื้นที่ห้ามจอดต่อไป ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ร่วมลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจสอบการกระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกดำเนินมาตรการด้านกฎหมายที่บังคับใช้กับผู้ขับรถสาธารณะในจุดดังกล่าว อาทิ หนังสือเรียกเปรียบเทียบปรับ, การตัดแต้มความประพฤติในการขับรถ รวมถึงการพักถอนใบอนุญาตขับขี่
ทางด้านตัวแทนผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่จัดระเบียบและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและยกระดับการรักษาความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ถนนราชดำริ โดยมีจุดจอดรถรับ-ส่ง 3 จุด คือ
1) โซน Groove บริเวณด้านหน้า Groove ฝั่งถนนพระราม 1 จัดให้มีเจ้าหน้าที่ให้บริการข้อมูลจุดจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
2) โซน Dazzle บริเวณประตูทางเข้าออกจากศูนย์อาหาร Hug Thai จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจดทะเบียนรถทุกคันที่ให้บริการลูกค้าเพื่อดูแลด้านความปลอดภัย, จุดให้บริการ Taxi & Application, จุดบริการ Grab Concierge Service อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวไทย และ ชาวต่างชาติ ที่ต้องการใช้บริการ Taxi service แต่ไม่มีอินเตอร์เน็ตและไม่ต้องการลง application Tourist Information โดยเปิดให้บริการที่เคาน์เตอร์ Tourist Information Dazzle Zone (Hug Thai)
และ 3) โซน I บริเวณประตูทางเข้าออก ฝั่งศาลพระตรีมูรติ โดยศูนย์การค้าไม่ส่งเสริมรถแท็กซี่ที่ไม่คิดค่าบริการผ่านมิเตอร์
พร้อมกันนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลจุดจอดรถดังกล่าวให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการภายในศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ การประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพจ Centralworld, จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ และป้ายบอกทางติดทั่วบริเวณศูนย์การค้า และประกาศผ่านเสียงตามสายภายในศูนย์การค้าต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ในส่วนบริษัทบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ร่วมอำนวยการจราจรร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรุงเทพมหานครบริเวณทางเข้า-ออก และได้จัดจุดบริการรถสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการไว้อีก 1 จุด บริเวณชั้น 1 นอกจากนี้ได้จัดทำป้ายรูปแบบต่างๆ ประชาสัมพันธ์บริเวณพื้นที่โดยรอบอาคาร บริเวณลานจอดรถ และจัดทำป้ายอัตราค่าโดยสารประชาสัมพันธ์บริเวณจุดรับ-ส่ง เพื่อความเป็นระเบียบและป้องกันการกำหนดราคาที่ไม่เป็นธรรม
ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า นอกจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนแล้ว กรุงเทพมหานครยังได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านแอปพลิเคชัน ทั้ง 10 บริษัท ในการให้ความร่วมมือกำหนดจุดปักหมุดเพื่อจุดจอดรับ-ส่ง ในพื้นที่บริเวณถนนราชดำริในจุดที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเรียกใช้บริการรถที่จอดแช่บริเวณหน้าศูนย์การค้าทั้ง 2 ฝั่ง อีกทั้งได้กำชับผู้ให้บริการของบริษัท ตระหนักถึงปัญหาและไม่รับ-ส่ง นอกจุดที่กำหนด โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปพลิเคชัน จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ Grab, Bolt, Bonku, และ Maxim ซึ่งได้เริ่มดำเนินการและปักหมุดตามจุดที่กำหนดในระบบแล้ว และอีก 5 บริษัท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านดังกล่าวร่วมกัน
การแถลงข่าวในวันนี้ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นางสาวพิมพ์พร งามขจรวิวัฒน์ Asset Director (CTW) & Head of Business Transformation ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นางปณิดา สุขศรีดากุล ประธานเจ้าหน้าที่สายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าว นางสาวรุจิเรศ นีรปัทมะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานรัฐกิจสัมพันธ์และสรรหาที่ดิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา นายไวทยา นวเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ผู้บริหาร Grab, Bolt, Bonku, และ Maxim บริษัทและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงานแถลงข่าวและลงพื้นที่