ภัย! หลอกรับซื้อเงินเก่า-แบงค์เก่า ข้าราชการโอนค่าดำเนินการ สูญหลายแสน

ภัย! หลอกรับซื้อเงินเก่า-แบงค์เก่า ข้าราชการโอนค่าดำเนินการ สูญหลายแสน

เตือนภัย! ในโลกออนไลน์ ระวังหลอกรับซื้อเงินเก่า-รับซื้อแบงค์เก่า รับซื้อเหรียญเก่า ผ่าน facebook ข้าราชการบำนาญโอนค่าดำเนินการ สูญหลายแสน ล่าสุด จับบัญชีม้าหลอกลวงรับซื้อเหรียญกษาปณ์ ได้ค่าจ้างเปิดบัญชี 300 บาท

กรณีหลอกรับซื้อเงินเก่า-รับซื้อแบงค์เก่า ผ่าน facebook ข้าราชการบำนาญ โอนค่าดำเนินการ สูญหลายแสน สืบเนื่องจาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้เสียหายผ่านเพจ สืบนครบาล IDMB ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย

โดยแกีงคนร้ายใช้เฟสบุ๊ค facebook หลอกลวงให้โอนเงินอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการและหลอกลวงให้โอนเงินค่าอื่น ๆ รวมทั้งหมด 8 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 377,000 บาท

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.67 เวลาประมาณ 12.30  น. เจ้าหน้าที่ กก.สส.4 สืบนครบาล น.ส.ภคมน อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลอาญาที่ 1734/2567 ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน  

  • ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
  • ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

โดยจับกุมที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ ต้องการจะขายเหรียญกษาปณ์รัชกาลที่ 6 จึงได้ค้นหาที่รับซื้อในแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ค พบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊คว่า “ปาหนัน รับซื้อเหรียญ” จึงได้ทักไปสอบถาม
ปรากฏว่าถูกผู้ต้องหาส่งข้อความหลอกลวงให้โอนเงินอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการและหลอกลวงให้โอนเงินค่าอื่นๆ รวมทั้งหมด 8 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 377,000 บาท

โดยได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ต่อมาผู้เสียหายทราบภายหลังว่าถูกหลอกลวงมาแต่ต้น จึงมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองให้ได้รับโทษตามกฎหมาย พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับ

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวน จนทราบว่าผู้ต้องหาหลบไปพักอาศัยย่านแพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ  จึงไปติดตามจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินการตามกฎหมาย

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าได้เปิดบัญชีให้กลับกลุ่มคนร้ายจริง โดยเป็นการสมัครผ่านแอพพลิเคชั่นที่มีการโพสในเฟสบุคเป็นภาษาจีน โดยได้รับค่าดำเนินการเป็นเงิน 300 บาท

หลังจากนั้นทราบว่ามีการนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิด แต่ไม่ทราบในรายละเอียดที่คนร้ายนำไปใช้ในการฉ้อโกงผู้เสียหายแต่อย่างใด จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.พญาไท บก.น.1  เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์, พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง สว.กก.สส.4ฯ, ด.ต.ชาญฤทธิ์ นิลทการ, ด.ต.ธีรพันธ์ โพยนอก, จ.ส.ต.สรายุทธ ยศสกุล, จ.ส.ต.กานต์ สรรพกิจจำนง ผบ.หมู่ กก.สส.4ฯ ดำเนินการ

พล.ต.ต.ธีรเดช ได้สั่งการให้สืบสวนติดตามคนร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผ่านการหลอกลวงทุกประเภท ขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ มีสติ สอบถามคนรอบข้างก่อน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ส่วนผู้ที่ขายบัญชีธนาคารนั้น ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ